ร.ร.เอกชน ห่วงขึ้น ‘งด.ขรก.-ค่าแรงขั้นต่ำ’ กระทบ ‘ร.ร.-ผู้ปกครอง’ จ่อขยับ ‘ค่าเทอม-ค่าจ้างบุคลากร’

ห่วงขึ้น ‘เงินเดือน ขรก.-ค่าแรงขั้นต่ำ’ นายก ส.ปส.กช.ชี้กระทบ ‘ร.ร.-ผู้ปกครอง’ เอกชนจ่อขยับ ‘ค่าเทอม-ค่าจ้างบุคลากร’

ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงเรียนเอกชนมีความกังวลใจ 2 เรื่อง คือ 1.หากปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งได้ข้อมูลว่าอาจปรับขึ้นประมาณ 7% จะมีผลกระทบกับโรงเรียนเอกชน 100% ดังนั้น ส.ปส.กช.อยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลว่าหากขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 7% จะต้องเตรียมเพิ่มเงินเดือนให้ครูเอกชนเท่าไหร่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เคยอนุมัติหลักการให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปรับเพิ่มเงินเดือนครูโรงเรียนเอกชนในอัตราเดียวกันทุกครั้งที่ปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ ดังนั้น หากขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการ ทาง ส.ปส.กช.จะต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อม เพื่อเสนอให้คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) พิจารณาเสนอให้ ครม.อนุมัติต่อไป

ดร.ศุภเสฏฐ์กล่าวต่อว่า และ 2.ตามที่รัฐบาลมีแผนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท โดยอาจจะประกาศค่าแรงขั้นต่ำใหม่ในเดือนธันวาคม และอาจมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2567 หรือแม้อาจปรับขึ้นไม่ถึงวันละ 400 บาท เช่น วันละ 380 บาท เป็นต้น ก็ส่งผลกระทบกับการจ้างบุลคากร และคนงานในโรงเรียนเอกชนเช่นกัน โดยบางโรงเรียนมีจำนวนครู และบุคลากร ครึ่งต่อครึ่ง และบางโรงเรียนอาจมีบุคลากรมากกว่าครูด้วย เพราะต้องจ้างทั้งพี่เลี้ยงเด็ก ที่หนึ่งห้องเรียนจะต้องมี 1-2 คน คนขับรถ ภารโรง แม่ครัว เป็นต้น ซึ่งทำให้โรงเรียนอาจต้องปรับเพิ่มค่าเทอม

“การปรับขึ้นค่าเทอม ส่งผลกระทบกับผู้ปกครองโดยตรง เพราะโรงเรียนจะต้องขึ้นค่าเทอม และขึ้นค่าใช้จ่ายต่างๆ โรงเรียนเอกชนไม่กังวลเรื่องการขึ้นเงินเดือนครู เพราะรัฐอุดหนุนช่วยเหลืออยู่แล้ว แต่กังวลเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ถ้าขึ้นวันละ 400 บาทจริง จะต้องขอให้รัฐช่วยอุดหนุนในส่วนนี้ด้วย” ดร.ศุภเสฏฐ์ กล่าว

Advertisement

ดร.ศุภเสฏฐ์กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทนั้น ใช้สำหรับซื้อของอุปโภคบริโภคเท่า แต่ไม่รวมการจ่ายค่าเทอมนั้น ที่ผ่านมาโรงเรียนเอกชนเสนอให้ใช้เงินดิจิทัลจ่ายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการศึกษามาตลอด ยอมรับว่ามีผิดหวังบ้าง ที่รัฐบาลอาจคิดว่าการช่วยจ่ายค่าเทอม ไม่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่เป็นไร เพราะเข้าใจในการตัดสินใจของรัฐบาล

ดร.ศุภเสฏฐ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ศธ.ได้เปลี่ยนนโยบายจาก 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต เป็น 1 นักเรียน 1 โน้ตบุ๊ก เพื่อให้ใช้ในการเรียนการสอนได้อย่างเต็มที่นั้น ศธ.ต้องอย่าลืมนักเรียนเอกชนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนการกุศลต่างๆ ด้วย เพราะที่ผ่านมาจะคิดว่าโรงเรียนเอกชนมีแต่ผู้ที่มีฐานะ ซึ่งในความจริงไม่ใช่แบบนั้น เพราะยังมีโรงเรียนเอกชนการกุศลที่ช่วยเหลือเด็กยากไร้อยู่เช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image