เปิดบทสัมภาษณ์ ‘น้าค่อม ชวนชื่น’ จากลิเก ผู้อ่านหนังสือไม่ออก สู่ดาวตลกเบอร์ต้นๆ ของไทย

เปิดบทสัมภาษณ์ ‘น้าค่อม ชวนชื่น’ จากลิเก ผู้อ่านหนังสือไม่ออก สู่ดาวตลกเบอร์ต้นๆ ของไทย

นับเป็นความสูญเสียครั้งหนึ่งของวงการบันเทิงไทย เมื่อ น้าค่อม ชวนชื่น หรือชื่อจริง อาคม ปรีดากุล ตลกชื่อดัง เจ้าของวลี “ไอ้สัส” เสียชีวิตด้วยโรคโควิด 19 หลังเข้ารับการรักษาเพียง 19 วัน ท่ามกลางความเศร้าเสียใจ จากแฟนภาพยนตร์ และคนในวงการบันเทิงจำนวนมาก

น้าค่อม นับได้ว่าเป็นอีก 1 ตลกระดับตำนานของเมืองไทย ผู้สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับคนไทยมานานกว่า 40 ปี มีผลงานทั้งภาพยนตร์ และ ละคร หลายสิบเรื่อง สร้างชื่อให้กับเขาอย่าง 7 ประจัญบาน , พยัคฆ์ร้าย ส่ายหน้า , คุณนายโฮ และ อีเรียมซิ่ง ทั้งยังมีผลงานเป็นเป็นพรีเซนเตอร์เกมต่างๆ

เป็นที่รู้กันของเหล่านักข่าวบันเทิง ว่า น้าค่อม นั้น มักไม่ค่อยให้สัมภาษณ์กับสื่อแบบยาวๆ ให้เหตุผลว่าเขาพูดไม่ค่อยเก่ง ความรู้น้อย ในช่วงหลัง เขาได้ไปร่วมออกรายการทอล์กโชว์บ้าง เปิดแง่มุมในชีวิตของตลกระดับตำนานได้อย่างน่าสนใจ

ชีวิตลำบาก จากลิเกสู่นักแสดงตลก

ค่อม ชวนชื่น เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า แต่ก่อนลำบากมาก กว่าจะมาเป็นตลก สมัยเด็กๆ หนังสือตอนนั้นไม่ได้เรียน พี่โน้ต เชิญยิ้ม เขาชวนมาเล่นตลกก็ไม่มา พอจิ้ม ชวนชื่น ไปชวน ก็เลยมา เขาบอกเราว่า เราอายุเยอะขึ้น มีลูกเมียต้องเลี้ยง จะลำบากแบบนี้หรอ เขาชวนอยู่ 3 ครั้ง ก็มา เข้ากรุงเทพฯมา

Advertisement

“พอมาเล่นตลก วันแรก ได้ 5,000 บาท เราก็หูย ค่าตัวทั้งเดือนหรือเปล่า เพราะเล่นลิเกได้วันละ 150 กลับไปรับลูกรับเมีย มาอยู่กรุงเทพฯ”

“เพราะครอบครัวจนมาก เป็นลิเกไม่มีเงิน พอมาเล่นตลก ทำนู่นนี่ วันแรกที่มีรถเก๋งขับก็ขับไปโชว์ ไปรับเมีย เขายังตกใจว่าไปเอารถใครมา”

ดาวตลก อ่านหนังสือไม่ออก

แม้จะเป็นดาวตลก ที่มีวลีเด็ดๆในภาพยนตร์ไม่น้อย แต่น้อยคนนัก จะรู้ว่า น้าค่อมเอง อ่านหนังสือไม่ออก น้าค่อม เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ เก้ง กวาง บ่าง ชะนี เมื่อ 31 มีนาคม 2560 ว่า ไม่ได้เรียนหนังสือ ก็เรียนแค่ป.1 ตอนนั้นคืออนุบาล ก.ไก่ก็ไม่รู้ เขียนหนังสือไม่เป็น คนมาขอลายเซ็นก็บอกเขียนไม่เป็น บางทีไม่ใช่ค่อม ก็เขียนอะไรไปไม่รู้

Advertisement

“เวลาเล่นหนัง เขาก็อ่านบทให้เราฟัง และเราก็จำอย่างเดียว”

เรื่องของแฟนคลับ

แม้จะไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ แต่น้าค่อม ก็ก้าวขึ้นสู่ตำนานของความเป็นตลก 1 คน ซึ่งบอล เชิญยิ้ม คู่ซี้ต่างวัย เคยกล่าวไว้ว่า ขอแค่เป็นน้าค่อม ไม่ต้องพูดอะไร แค่มาให้คนเห็น คนก็รักแล้ว

น้าค่อม เผยว่า หลังจากเล่นตลก ก็เริ่มเข้าวงการ ไปเล่นภาพยนตร์ คนก็รู้จัก มาดังตอน 7 ประจัญบาน มาฮอต แสบสนิท เวลาไปไหน วัยรุ่นก็บอก น้า อัดคลิปให้ผมหน่อย ด่าผมหน่อย เจอวินมอเตอร์ไซค์ ด่าไป เขาก็ภูมิใจมาก

และว่า คนดูสมัยนี้ เขามองตั้งแต่หัวยันเท้า เราต้องแต่งตัวให้ดูทันสมัยด้วย เป็นที่มาให้เด็กในวงนั้น ซื้อรองเท้าทันสมัย ให้ใส่

น้าค่อม ยังบอกอีกว่าเขาใช้ชีวิตอย่าง ไม่รวย แต่ก็ไม่เป็นหนี้ใคร

“ไม่รวย ไม่เป็นหนี้ใคร มีกินอยู่อย่างสบาย เรามีงาน เด็กไม่มีงาน เราก็ช่วยให้เขาไป อยากให้เด็กมีเสื้อผ้าใส่สวยๆ บางทีไปงานได้เงินน้อย ก็บอกบอลให้เด็กไป”

ชีวิตที่เสี่ยงตาย

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา น้าค่อม ได้เปิดใจถึงชีวิตที่เฉียดความตาย อันเป็นเพราะเขา ชอบดื่มเครื่องดื่มชูกำลังมาก วันละ 12-13 ขวด จนเรียกว่ากินแทนน้ำ ทำอยู่เช่นนี้ 30 กว่าปี กระทั่งอัดรายการและมีอาการผิดปกติ ขับรถพุ่งผิดเลน ถ่ายรายการหันหลังให้กล้อง เริ่มลอยๆ ปากเบี้ยว กระทั่งไปแอดมิทโรงพยาบาล พบว่า มีน้ำตาลสูงถึง 350 ต้องฉีดยาทันที ตามมาด้วยเส้นเลือดในสมองตีบ ปอดอักเสบ ที่ตามมาเช่นกัน

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น น้าค่อม หักดิบทุกอย่าง เลิกเหล้า บุหรี่ และเครื่องดื่มชูกำลัง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ มีหลานเล็กที่กำลังน่ารัก ด้วย

เหตุการณ์ครั้งนั้น ยังทำให้น้าค่อม แอบหวั่นใจ โดยเขาเคยเปิดเผยว่า หลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็เป็นโรคซึมเศร้า หวั่นใจว่าคนจะจ้างไหม จะเล่นดีเหมือนเดิมไหม มองเห็นลูกเมียก็คิดว่า เขาจะลำบากไหม เราจะหากินไม่ได้ เขาจะลำบากไหม ทั้งบ้าน 11 คน ผมหากินคนเดียว

ความรักของดาวตลก

เรื่องความรักของ ค่อม ชวนชื่น กับภรรยา เอ๋ – นางประภาศรี ปรีดากุล ที่เข้ารับการรักษาด้วยโรคโควิด 19 อยู่นั้น ปัจจุบันทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 3 คน ซึ่งน้าค่อมบอกว่า ลูกสบายทุกคน อยู่กับพ่อแม่ เราห่วงเขา คนเล็กนี้กินเก่ง ตามใจ ตี 1 ก็กินข้าว เราก็นั่งกินด้วย

คู่รักคู่นี้ อายุห่างกัน 10 ปี จุดเริ่มต้นเกิดจากค่อม ได้เห็นเอ๋ สาวไชยา ที่มาดูลิเกแล้วชอบ จึงได้เริ่มตามจีน

น้าค่อม เผยว่า ผมแก่กว่าเขา 10 ปี ผม 29 ปี เขา 19 ปี ผมไปเล่นลิเก เขามาดูลิเก เขาน่ารัก จะมากับพวกผู้ใหญ่ ก็จีบเขา พอรู้ว่าอยู่ที่ไหน พอเลิกลิเกก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปตามหาเขา ถามหาโรงน้ำแข็ง หาบ้านเอ๋ ตื๊อไปเรื่อยๆ ให้รู้ว่า ชอบ ชัดเจนมาก เขาก็ไม่ชอบเรา แต่ไปให้รู้ว่าชอบ ไปอยู่ 5-6 เที่ยว จากหมู่บ้านเสนา กทม. ไปไชโย ที่อ่างทอง ไป 5 ครั้ง ก็นอนวิเศษชัยชาญ จนพ่อแม่เขาใจอ่อน ก็ยกให้เรา

เคยแจ้งความเมียรัก

เรื่องราวความรักของคู่ชีวิตคู่นี้ ก็เรียกว่ามีเรื่องฮา ที่เพื่อนตลกหยิบยกมาแซว อย่างเรื่อง ซ่อนเงิน เพราะ น้าค่อมเอง เป็นคนชอบทำรถ ก็อยากนำเงินไป แต่ไม่อยากจะขอเมีย

“กับภรรยา ต้องเรียกว่าเกรงใจ อยู่ด้วยกันต้องให้เกียรติกัน อย่างเรื่องซ่อนเงิน เมื่อก่อนนี้จะขับเกียร์กระบะ ตรงเกียร์เป็นซิปรูด ผมก็เอาเงินใส่ไว้ตรงนั้น และเอาซิปรูด พอโป๊งเหน่งขับไป เจอ เราก็พูดไม่ได้ อย่างกล่องเครื่องมือ เขาก็เจอ เราสัญญาไว้แล้วว่า ถ้าเจอเป็นของขวัญ ก็ให้เขา วันนั้นเขาดึงที่บังแดดลงมา ร่วงลงมาเยอะเลย เป็นของเขาหมด”

แต่ก็มีเรื่องที่ถึงกับฮาไม่ออก ขนาดเคยขึ้นโรงพัก

“เราเลิกตลกกลับดึก เขาก็รออยู่ เราก็บอกว่าตลกเขาคุยกัน เขาก็บอก เถียงหรอ เดี๋ยวแทงเลย เราก็ท้า เขาแทงจริง เราก็ร้องไห้ ไปแจ้งตำรวจ เขาไม่รับ ก็เลยไปหาหมอ บอกว่าสู้กัน เราก็ร้องไห้เพราะน้อยใจ เราทำงานหามรุ่งหามค่ำ เรื่องผู้หญิงก็ไม่มี กลับมาก็ไปนอนในรถ ท้ายหมู่บ้าน รอให้เมียมาตาม สุดท้ายไม่ตาม ยุงกัด ก็กลับไปเอง”

เรื่องที่ฝากถึงตลกรุ่นหลัง

ไม่ว่าจะครั้งไหน สิ่งที่หลายคนจดจำ ไปเท่าๆกับเสียงหัวเราะลั่นของน้าค่อม ก็คงเป็น เรื่องของความตรงเวลา ซึ่งนี่ เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเป็นตลก ในมุมมองของน้าค่อม

โดย อาคม เคยกล่าวไว้ว่า ตลกนี่สอนกันไม่ได้ อยู่ที่การทำตัวและเวลา ตลกนี่ถ้าตรงเวลา คุณจะมีงานเยอะแน่นอน หนักเบา สู้ อย่าท้ออย่าถอย ไม่มีใครเก่งกว่าใครหรอกครับ ตลกอะ

และวันที่ 30 เมษายน ก็เป็นวันที่ดาวตลกขวัญใจคนไทย ได้ลาลับไปอีกดวง มติชนออนไลน์ ขอแสดงความเสียใจ มา ณ ที่นี้

ขอบคุณที่มา รายการ เก้ง กวาง บ่าง ชะนี และ Club Friday Show

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image