ศรราม น้ำเพชร เคลียร์ปม นุ่น ดำดง ลาออก รับเสียใจ อยากรู้เหตุผล เป็นเพื่อน 8 ปีเคยคุยกันได้ทุกเรื่อง

ศรราม น้ำเพชร เคลียร์ปม นุ่น ดำดง ลาออก รับเสียใจ อยากรู้เหตุผล เป็นเพื่อน 8 ปีเคยคุยกันได้ทุกเรื่อง

กลายเป็นกระแสดราม่าร้อนที่ดูจะยังไม่จบง่ายๆ กับกรณีที่ นุ่น ดำดง หรือ นุ่น เนตรชนก ได้ประกาศลาออกจากคณะลิเก ศรราม น้ำเพชร เหตุเพราะอึดอัดใจที่อยู่ไปก็ไม่มีใครในคณะพูดคุยด้วย หลังกระแสดำดงฮอตจนเกินหน้าเกินตา (อ่านข่าว ปิดฉาก? ดำดง ลิเกสาวดาวรุ่ง ไลฟ์ทั้งน้ำตา แจงสาเหตุลาออกคณะ ‘ศรราม น้ำเพชร’) ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ในงานเเถลงข่าวเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ลอตเตอรี่พลัส เป็นพระเอกลิเกดังเสียงหวานอย่าง เเบงค์ ศรราม น้ำเพชร โดยในงานมีแฟนคลับเข้ามาให้กำลังใจแน่น ก่อนที่เจ้าตัวจะมาเปิดใจเคลียร์ทุกเรื่องราวไว้ว่า

กับเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นมีทั้งด้านบวกและด้านลบเข้ามาถึงเรา อยากจะพูดในมุมของเรายังไงบ้าง?
“หลายๆ คนน่าจะรอให้แบงค์ออกมาชี้แจงประเด็นตรงนี้อยู่แล้ว ดีใจที่ทุกคนรอให้แบงค์ออกมาพูด ตอนแรกเลยที่เกิดเรื่องพี่ๆ สื่อมวลชนก็ติดต่อมาอยากให้แบงค์ชี้แจงในไลฟ์ แต่ว่าแบงค์ไม่ได้ตอบอะไรเลย เพราะรู้สึกว่าไม่อยากให้เกิดตีความหรือเป็นดราม่าที่บานปลาย ต้องการที่จะตอบทีเดียวเลยให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน เพราะจริงๆ เรื่องราวต่างๆ ในมุมของแบงค์มันไม่น่าเป็นประเด็นสังคมที่จะใหญ่โตขนาดนี้ หรือเกิดการแตกแยกในสังคม เพราะปัญหาจริงๆ มันในเรื่องของการทำงานในการสื่อสาร หรือการจัดการกับความรู้สึกในการทำงาน โดยที่สามารถปรึกษาหาทางออกร่วมกันได้โดยที่ไม่ต้องผ่านโซเชียล”

Advertisement

ที่ผ่านมามีการพูดคุยกันไหม ระหว่างตัวเรากับน้อง?
“วันนี้แบงค์ขอบอกก่อนเลยนะครับ จะขอชี้แจงประเด็นต่างๆ อธิบายในมุมของแบงค์ตามข้อเท็จจริง แล้วขอไม่พาดพิงหรือถามในเชิงโจมตีใคร”

ถามถึงเรื่องคนในวง?
“อย่างประเด็นนี้ ประเด็นแรกเลยแล้วกันที่ว่าตัวแบงค์ไม่ได้คุยกับนุ่น ทำให้นุ่นอึดอัดจนต้องลาออก เรื่องการลาออกของนุ่นบอกเลยว่ามันกะทันหันมากๆ แล้วก็ไม่มีสัญญาณเตือนมาก่อน ในรูปแบบของการตัดสินใจทุกคนรู้พร้อมกันหมดเลยทางโซเชียล โดยที่ยังไม่ได้มาคุยกันเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น สาเหตุที่แท้จริงคืออะไร ทั้งคุณแม่ของแบงค์ (แม่ครูดวงแก้ว) และทีมงานทุกคนก็งงกันหมดว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้

ประเด็นต่อมาคือ แบงค์ตึงทั้งหน้าเวทีและหลังเวที ยิ่งประเด็นนี้แบงค์ขอยืนยันตรงนี้เลยว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าแบงค์มีการจัดการกับความรู้สึก ไม่เคยเอาความเครียดหรือความเหนื่อยมารวมกับการทำงานอยู่แล้ว ผลงานหน้าเวทีสำคัญที่สุด แฟนคลับจะต้องได้รับความสุขอย่างเต็มที่ที่สุด ส่วนหลังเวทีอาจจะเป็นภาวะของความตึงเครียดของแต่ละคนในการทำงานของแต่ละวัน ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง แล้วยิ่งตอนนี้หลังเวทีมันเปลี่ยนไป พอทุกคนออกไปแสดงแล้วเข้ามาหลังเวที ก็จะอยู่กับที่ตัวเอง แล้วจะไลฟ์ติ๊กต็อกคุยกับแฟนคลับ มันเลยทำให้การพูดคุยกันหลังเวทีน้อยลงกว่าแต่ก่อนมากๆ”

Advertisement

ก่อนหน้านี้มีปัญหาไม่เข้าใจกันไหม ต่างคนต่างไม่ได้พูดคุยกันหรือเปล่า?
“เราร่วมงานกันมา 8 ปี นุ่นอยู่คณะแบงค์มา 8 ปี แล้วเราก็อยู่กันแบบครอบครัว แบบเพื่อน ชนิดที่ว่าคุยกันได้หมดทุกเรื่อง ปรึกษากันตลอด หาทางออกกันตลอด อยู่กันมาได้จนถึง 8 ปี จริงๆ แล้วไม่มีเรื่องไหนเลยที่เราจะคุยกันไม่ได้ และคุยกันไม่รู้เรื่อง”

หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ เราได้กลับไปดูไหมว่ามันเกิดจากอะไรทั้งที่ร่วมงานกันมา8 ปี?
“ก็จะมีอย่างประเด็นเรื่องด้อมคู่จิ้น แบงค์ก็คุยกันเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา รู้นะว่ามีด้อมจิ้น ‘แบงค์-นุ่น’ มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แบงค์แสดงกับใครก็จะมีด้อมจิ้นมาตลอด เราไม่ได้ห้ามครับ การมีด้อมจิ้นหมายถึงว่าแฟนคลับรักและชื่นชอบเรา การมีด้อมจิ้นทำให้คนมาติดตามเพิ่มมากขึ้นด้วย เราไม่ได้ห้าม แต่ว่าวันนั้นบังเอิญว่าในไลฟ์ของเพลง แบงค์ศร ที่แบงค์กำลังแสดงอยู่กับน้องปอย มีแฟนคลับท่านหนึ่งมาคอมเมนต์ในเชิงไม่สร้างสรรค์เป็นการเปรียบเทียบ แฟนคลับน้องปอยก็เข้ามาบอกว่าให้เกียรติศิลปินนิดนึงนะ หลังจากนั้นก็โจมตีกัน แล้วคนที่ดูลิเกอยู่แล้วไม่รู้เรื่องอะไรจะรู้สึกยังไง ก็เลยมองว่าถ้าเราไม่ทำอะไรเลยเดี๋ยวจะเป็นปัญหาที่แก้ลำบาก ก็เลยจะคุยกับนุ่นว่าอยากให้นุ่นสื่อสารกับแฟนคลับ เพราะประเด็นแฟนคลับเราจะให้เกียรติศิลปิน ให้คุณไปสื่อสารกับแฟนคลับของคุณเอง เพราะแบงค์เชื่อว่าคนที่สร้างด้อมจิ้น ‘แบงค์-นุ่น’ เป็นแฟนคลับของนุ่น เป็นแฟนคลับของดำดง ทำไมถึงสร้างด้อม เพราะว่าเขารักและชื่นชอบ แบงค์ก็เลยให้เกียรตินุ่นอยากให้ไปสื่อสารกับเขาหน่อย เราไม่รู้หรอกใครเป็นคนทำ แต่อย่างน้อยไปแจ้งในด้อมหรือขึ้นไลฟ์ก็ได้ แป๊บเดียวเขาก็รับรู้ ยิ่งศิลปินที่รักที่ชื่นชอบมาแจ้งด้วยตัวเอง เขาต้องยินดีให้ความร่วมมืออยู่แล้ว”

เราคุยกับนุ่นด้วยดี ทำความเข้าใจ ว่ามันเป็นอย่างนี้ๆ ใช่ไหม?
“ใช่ ไม่ได้ต่อว่าเลยนะครับ เราคุยกันแบบเพื่อนเลยว่ามันเป็นแบบนี้ (พอแจ้งไปแล้ว เขาฟีดแบ๊กกลับมาว่ายังไงบ้าง?) ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปกันเลยว่าจะยังไง นุ่นจะไปสื่อสารกับแฟนคลับไหม หรือเราจะต้องทำยังไง พอมาวันที่ 27 ก็ไม่เจอแล้ว นุ่นก็ไม่ได้มาแสดงแล้วครับ (เขาแจ้งไหมว่าจะไม่มา?) วันที่ 27 นุ่นส่งข้อความมาหาพี่นุ่น พี่คนรับงานของคณะ แชตมาว่าวันนี้หนูลาป่วย แล้วก็ถอยออกมาอะไรสักอย่างหนึ่ง ส่งข้อความมายาวมากเลย พอพี่น้ำเพชรรู้ก็รีบไลน์ไปหาเลย แต่นุ่นไม่ได้เปิดอ่าน แล้วก็แจ้งผ่านทางพี่นุ่นอย่างเดียว ตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อความใดๆ กลับมาเลย ตั้งแต่วันที่ 27 จนถึงวันนี้ ยังไม่ได้คุยกันเลยครับ”

แปลกใจไหม ก่อนหน้านี้เราค่อนข้างสนิท คุยกันได้ทุกเรื่อง แต่ทำไมรอบนี้ไม่คุย?
“แปลกใจมากครับ เพราะส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย ก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าสาเหตุที่แท้จริงมันคืออะไร เพราะเราเป็นเพื่อนกัน เราเคยคุยกันได้ทุกเรื่อง และเคยปรึกษาเรื่องเล็กเรื่องน้อย เราเคยเฮฮาด้วยกัน”

เหมือนมีกระแสว่าใครเข้าใกล้ นุ่นก็ถูกด่า?
“อันนี้หลายคนก็เห็นครับช่วงแรกๆ ก็คือช่วงที่นุ่นมีกระแส เข้าใจครับว่าแฟนคลับทุกคนรักและหวง แล้วก็ห่วงนุ่น หลายๆ คนที่เข้ามาใกล้หลังเวที เข้ามาในไลฟ์ ก็โดนดราม่าหมดเลย ทุกคนก็เลยต้องระวังตัว ต้องปรับตัว (ทำให้เฟดตัวออกจากนุ่น?) นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในเหตุผลเหมือนกันครับ ทุกคนก็ต้องระวังตัวครับ คือเราไม่ได้คิดอะไร เราก็มาไลฟ์กันสนุกๆ แต่บางคนก็ว่ามาเกาะกระแสเหรอ แม้แต่การแสดงหน้าเวที ที่เรามีการตีหัว แบงค์เองก็ยังโดนเลย ทำไมตีแรงจัง เราก็ต้องปรับกันไป”

เสียใจไหม 8 ปี ที่ต้องเสียเพื่อนร่วมงานไป?
“มันเสียใจมากครับ การที่เสียเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนร่วมงาน นุ่นเป็นคนหนึ่งที่มีความสามารถในการทำงาน แต่พอถึงตอนนี้ มันก็ยังงงอยู่ ยังมีคำถามในใจอยู่ว่าเรื่องอะไร ทำไม”

คิดว่าชื่อเสียงมีผลทำให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไหม ที่เราเคยออกมาถามแทน เรื่องที่เขาไปทำงานสาย?
“มีประเด็นที่ว่าแบงค์ไม่ดูแลความรู้สึกของนุ่น คือจะถามว่าต้องดูแลเรื่องอะไรบ้าง หนึ่ง อย่างล่าสุดที่มีประเด็นดราม่า ที่นุ่นเจอดราม่าตอบคำถามแฟนคลับ แบงค์ก็เข้าไปให้คำปรึกษา ในฐานะของผู้ที่มีประสบการณ์มาบ้าง สอง การดูแลเรื่องภาพลักษณ์ เวลาที่นุ่นไม่ได้มีทำการแสดง ทางคณะเราก็ปกป้อง และรับมือกับความคาดหวังของคณะเจ้าภาพ นี่คือสิ่งที่เราทำมาโดยตลอดครับ”

หลายคนบอกว่าพอนุ่นมีชื่อเสียงมีงานเยอะ เลยไม่มีเวลาให้คณะ อันนี้มีส่วนไหม?
“อย่างที่บอกครับ คนเรามีโอกาสเข้ามา แบงค์ก็เชื่อว่าทุกๆ คนก็อยากมีรายได้เพิ่ม ทางนี้แบงค์ก็ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสอยู่แล้ว ในการที่มีงานเข้ามา แบงค์บอกแล้วว่ารับงานนอกได้ แต่ขออย่างเดียว อย่ากระทบกับงานลิเก บอกกับทุกๆ คนแหละครับ เพราะหลังจากมีกระแสฟีเวอร์เนี่ย หลายคนในคณะคือดังมากๆ มีงานนอกติดต่อมา ก็อยู่ในเงื่อนไขเดียวกันครับ รับงานนอก ขออย่างเดียวงานหลัก งานลิเกเราอย่าให้กระทบ”

เมื่อวานเขาได้ไปกราบลาคุณแม่?
“ก็ถามคุณแม่ว่าคุยอะไรบ้าง นุ่นก็เข้ามาขอโทษครับ ถ้าทำอะไรผิดไป แต่แม่แบงค์ก็ถามกลับไปว่าทำไมไม่เข้ามาคุยกับป้าก่อน ทำไมถึงเลือกที่จะไลฟ์ก่อน เพราะวันนั้นที่นุ่นไลฟ์วันที่ 1 ครับ แล้วก็เมื่อวันที่ 4 ก็เข้ามากราบลาอย่างเป็นทางการครับ”

จริงๆ อยากให้เขาเข้ามาคุยกับเราไหม?
“ก็อยากรู้นะครับ อยากรู้ว่าเหตุผลตอนนี้ที่นุ่นตัดสินใจลาออกมันคือเหตุผลอะไร เพราะว่าถ้ามันเป็นเหตุผลจากที่นุ่นไลฟ์เนี่ย มันเป็นเรื่องที่เราหาทางออกร่วมกันได้ เพื่อนกันมา 8 ปี นุ่นก็ต้องรู้จักแบงค์ แบงค์ก็รู้จักนุ่นดี”

เจ้าภาพที่จ่ายมัดจำไว้เพื่อจ้างเราทั้งคู่ยังไม่มีใครขอคืนใช่ไหม?
“ไม่มีครับ ไม่มีผลกระทบต่อเรื่องตารางงานแสดงเลยครับ ความเชื่อใจของเจ้าภาพกับทีมงานของเราและผลงานด้านหน้าเวทีของเรายังเชื่อมั่นกัน 100% ไม่มีผลกระทบอะไร”

กลัวไหมว่าถ้ามีดำดงคนใหม่แล้วจะถูกเปรียบเทียบ?
“การเปรียบเทียบมันมีอยู่แล้วครับ ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว แต่ว่าอย่าเปรียบเทียบเลย เราให้กำลังใจกันดีกว่า ทุกคนต้องการกำลังใจ ไม่ต้องการการเปรียบเทียบ เพราะเราเห็นแล้วตัวอย่างการเปรียบเทียบมันสร้างความแตกแยก สร้างรอยร้าวให้กับตัวศิลปินและแฟนคลับด้วย”

ในวงเราได้มีโอกาสคุยกันเรื่องนี้บ้างไหมหลังจากเกิดเรื่องราวขึ้น?
“ทุกคนได้รับผลกระทบหมดเลยนะจากประเด็นตรงนี้ เพราะว่าเอฟซีไปโจมตีทุกคนเลย ทุกคนก็เสียกำลังใจกันหมดครับ”

ถามถึงเรื่องที่จิมมี่ผู้จัดการของแบงค์ไลฟ์สดแล้วพาดพิงถึงเขาว่าออกไปใช้เงิน แล้วอีกฝ่ายเขาก็ไม่พอใจ แบงค์คิดยังไงกับเรื่องนี้บ้าง?
“จากที่คุยกับพี่จิมมี่ในประเด็นนี้ก็เป็นมุมมองของพี่จิมมี่ เพราะพอพี่จิมมี่ได้รู้ว่านุ่นขอลาออก อาจจะเป็นเพราะว่านุ่นทำงานหนักเพราะว่าช่วงฟีเวอร์ นุ่นงานเยอะมากๆ ทั้งงานนอกและต้องมาแสดงลิเกและแสดงเรื่อง สาปซ่อนรักทุกคืน พี่จิมมี่ก็เลยมองว่าหรือว่านุ่นอยากจะพักงานซักช่วงนึง เพื่อที่จะได้ออกไปใช้ชีวิตไปรีแล็กซ์ คือมุมมองนั้น”

คิดว่าความดังที่เกิดขึ้นมันทำให้กลายเป็นประเด็น ณ วันนี้ไหม?
“โอกาสครับ คนเราเวลาโอกาสเข้ามาเงินทองทุกอย่างมันเข้ามาหมด สุดท้ายแล้วคำว่าโอกาสถ้าเราจะรับในทุกๆ โอกาสมันต้องมีความรับผิดชอบควบคู่กันไปด้วยครับ”

หลังจากนี้จะต้องมีกฎมากขึ้นหรือขอความร่วมมือกับน้องในคณะมากขึ้นไหม?
“วงเราเป็นสัญญาใจหมดเลยตั้งแต่ตั้งคณะมา เราไม่มีสัญญาผูกมัดอะไรกับทุกคน พอถึงในจุดที่อิ่มตัวอยากจะออกไปเติบโตที่อื่น เราก็ยินดีให้เขาได้ไปทางที่เขาเลือกเดิน”

จากเคสนี้มีอยากเปลี่ยนเป็นทำสัญญาเลยไหม?
“ถามว่าอยากมีไหมก็ไม่อยากมีนะ จริงๆ มันเป็นการผูกมัดอย่างที่บอกถ้าเกิดว่าเราสุดแล้วกับที่ตรงนี้เหมือนคนอยากเปลี่ยนงาน อยากไปเจอประสบการณ์ใหม่ๆ อยากเติบโต เพราะบางครั้งการที่เขาออกไปจากบ้านหลังนี้ เขาอาจจะไปเติบโตในทางที่เขาอยากจะเลือกเดินอย่างประสบความสำเร็จก็ได้”

ได้ยินมาว่าลิเกหลายคณะมาทาบทามเขา แบงค์ยินดีไหม?
“คือไม่ว่านุ่นจะตัดสินใจยังไงเรายินดีหมดเลย เพราะว่าเป็นทางของเขาที่เลือกเดิน เรายินดีและฝากให้แฟนคลับทุกคนตามซัพพอร์ตและให้กำลังใจนุ่นด้วย”

แฟนคลับบางส่วนเขาก็ลุ้นให้กลับมา?
“ในการร่วมงานแบงค์บอกเลยว่า แบงค์ร่วมงานกับนุ่นได้ แล้วก็ยืนยันตรงนี้ว่าไม่ได้มีปัญหาส่วนตัว”

ที่เขาบอกว่าครอบครัวนี้ไม่ใช่เซฟโซน คิดว่าคนในทีมรู้สึกยังไงบ้าง?
“ในการทำงานในมุมของของแบงค์ หลังเวทีทุกคนก็ต่างมาทำงาน หลังเวทีมันมีปัญหามีอะไรจุกจิกเยอะมากที่เราจะต้องแก้ปัญหา บางทีต้องตักเตือนปรับกันไป ณ ตอนนั้น ซึ่งที่ทำงานตรงนี้มันวุ่นวายมาก และเราไม่รู้แต่ละคนมีเรื่องราวอะไรในใจบ้าง ใครกำลังทุกข์ ใครกำลังเศร้า บางทีก็บอกให้เรารู้บางทีก็เก็บกันไว้ แบงค์เลยคิดว่าที่ตรงนี้มันไม่เหมาะจะเป็นเซฟโซน”

ตลอดการทำงาน 8 ปีที่ร่วมงานกับนุ่นมาเป็นยังไงบ้าง?
”นุ่นเขาทำหน้าที่ของตัวเองออกมาได้ดี มีปัญหาอะไรเขาก็พูดคุยตลอดแบบเพื่อนคนหนึ่ง“

วันนี้มีอะไรฝากถึงเพื่อนนุ่น?
”ณ ตอนนี้นุ่นได้ตัดสินใจไปแล้วอย่างที่ทุกคนทราบ เราก็เคารพการตัดสินใจ ทุกคนมีทางเดินเป็นของตัวเอง แบงค์เองก็อยากให้แฟนคลับทุกคนตามให้กำลังใจศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบและยอมรับการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นกำลังใจให้กับศิลปินทุกคนด้วยนะครับ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image