แอ๊ว อำภา ในวันเปลี่ยนผ่านยุค ปรับตัวทำงานกับเด็กรุ่นใหม่

แอ๊ว อำภา ในวันเปลี่ยนผ่านยุค ปรับตัวทำงานกับเด็กรุ่นใหม่

นักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือ แอ๊ว อำภา ภูษิต ที่ไม่ว่าจะเปลี่ยนผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ยังมีผลงานออกมาให้แฟนๆ ได้ชมอยู่ตลอด โดยล่าสุดก็เป็นภาพยนตร์เรื่อง ‘ผู้เช่า’ ที่พร้อมให้ได้ชมแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ กับบทบาทของ ‘ป้าธิดา’ เจ้าของหอพักสุดใจดี จุดเริ่มต้นของความลึกลับสยองขวัญ ทั้งนี้ แอ๊ว อำภา ก็ได้เล่าว่า

“เรื่องนี้มันน่ากลัว น่าเกลียด ตั้งแต่ตึกละ ดูจากตึกหอพัก กระทั่งมาถึงคน ไม่มีอะไรน่าสวยงามเลย มีคนเดียวที่สวย มีเรา”

กับเรื่องความหลอน “แต่ละคนมันจะหลอนไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน”

Advertisement

แต่หากให้วัดจากตัวเองในฐานะนักแสดงก็บอกเลยว่ายาก “ไม่เคยยากเท่านี้เลย เพราะถ่ายหนังเนี่ยมันจะถ่ายซ้ำไป ซ้ำๆ เพื่อต้องการให้ออกมาดี ยาก เหนื่อย”

ที่นักแสดงมากฝีมือบอกว่าทุ่มทั้งตัว หนักทุกแบบทุกพาร์ต แต่ก็ยังไม่เข็ดเพราะได้เปลี่ยนบรรยากาศมาร่วมงานกับนักแสดงเด็กๆ ที่มีอีกมุมความน่ารักและมีความสุข

“เราร่วมงานกับเด็กๆ น่ารักทุกคน มันทำให้เรามีความรู้สึกว่า อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข”

Advertisement

“เอารุ่นนี้มาเจอกับรุ่นเรา มันมีความคิดเห็นหลายๆ อย่าง เด็กรุ่นนี้เขากล้าพูด กล้าอธิบาย กล้าทุกอย่างกับคนรอบตัว ไม่ใช่ทางที่ไม่ดีนะ คนเขียนบท กับผู้กำกับ แลกกัน รุ่นนี้เขากล้า แต่สมัยก่อนให้ทำอะไรก็ต้องทำ”

สำหรับตัวเองนั้นก็ยังมีความเป็นคนรุ่นเก่าในด้านของการทำงาน ที่ถูกสอนมาในแบบที่ต้องทำตามที่ผู้กำกับต้องการ

“ถามว่าแม่ต้องไปพูดอะไรไหม ผู้กำกับเขามีไว้ทำไม ผู้กำกับเขามีไว้ตีซ้าย ตีขวา ให้เข้าที่ คนเขียนบทก็มี รุ่นก่อนเนี่ย เราจะมีการสอนมาอีกแบบหนึ่ง”

“แต่รุ่นนี้จะเป็นตัวของตัวเอง เพราะฉะนั้นนั่นก็คือความดีของเขาในอีกแนวหนึ่ง”

แม้ว่าจะคนละยุคคนละสมัย แต่กระนั้นเมื่อต้องมาทำงานด้วยกัน แอ๊วก็บอกว่าไม่มีปัญหา ทำงานด้วยกันได้อย่างราบรื่น

“ไม่ต้องปรับตัวเลย เพราะทุกคนน่ารัก เราอยู่ด้วยกันแบบเป็นอาทิตย์ คุยกันรู้เรื่อง พูดกันรู้เรื่อง ให้เล่นกันแบบไหน เราจะดูว่า กล้องเขาให้ทำอะไร ผู้กำกับเขาให้ทำอะไร แล้วก็จบตรงนั้น”

“เราผู้ใหญ่ เราก็ต้องรับฟังเด็ก แล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือ ผู้กำกับก็ต้องคุยกับเด็กๆ เพราะฉะนั้นลงตัวหมด”

กับประสบการณ์เล่นหนังที่เริ่มต้นมาตั้งแต่อายุ 18 นั้น แอ๊ว อำภา บอกว่ามีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก

“ยุคโน้นเนี่ยมีคนบอกบท อันนี้ต้องจำบทเอง แล้วยุคโน้นเนี่ย ถ่ายแบบ เราส่วนใหญ่จะเป็น นางเอกวิ่งไล่ตาม ถ้าเป็นหนังบู๊ หรือหนังผี หนังผีเราก็แค่ยื่นมือแล้วก็ไปใช้ซีจีเอา ไปทำมือยาวๆ แล้วก็ไปทำตาโตๆ”

“แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่ มันมีหลายอย่างต้องออกมาจากข้างใน ต้องดูค่ะ เพราะถ้าอธิบายแล้วมันเยอะมากกับหลายๆ อย่าง”

ในวัย 60 กว่า ที่ต้องมาทำงานแบบใหม่ที่ต้องจำบทเอง แต่ก็ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้

“เรื่องนี้บทน้อยนะ ที่เล่นบุพเพสันนิวาส กลิ่นมาลี แล้วไม่ได้ด่าภาษาไทยด้วย เยอะ เยอะกว่านี้เยอะ”

“ก็คิดว่าอัลไซเมอร์ยังไม่มา ยังพอจำได้อยู่”

“แม่จะบอกตัวเองว่า สมมุติว่ารับงาน เขากล้าจ้างเรา เราก็ต้องกล้าเล่น แต่ถ้าวันไหนแม่จำบทไม่ได้ หรือว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว จะหยุดเอง จะบอกเลยว่าไม่รับแล้วค่ะ ก็คือจำไม่ได้ แต่จำได้ก็ยังเล่นค่ะ อยู่เฉยๆ แล้วมีความรู้สึกว่ามันไม่มีประโยชน์เลย อยู่บ้าน”

ทั้งเล่าต่อว่า “มีภาพไว้ว่า ถ้าเมื่อไหร่ทำให้ผู้จัดเดือดร้อน เราก็ต้องบ๊ายบาย เราไม่ทำให้เขาเดือดร้อนตรงที่ว่าต้องมาเสียเวลาถ่ายซ้ำ มันเสียเวลา เพราะวันหนึ่งค่าใช้จ่ายเยอะ เพราะฉะนั้นเรารู้ตัวว่าควรจะเล่นต่อ หรือว่าควรจะหยุด”

เมื่อถามถึงทริกการดูแลตัวเอง “ไม่เครียด เลี้ยงลูกแบบเหมือนเพื่อน เหมือนลูกสาวที่แบบคุยกันได้ทุกเรื่อง เราจะคุยกันทุกเรื่องอยู่แล้ว แล้วก็ออกกำลังกาย อันนั้นคือสิ่งที่จำเป็น เพราะต้องให้หัวใจเต้นปกติ ต้องให้เส้นความถี่เขาเหมือนเดิม ก็คือต้องเล่น เดินลู่”

เรื่องการทำงาน ณ วันนี้บอกเลยว่าฮอต เพราะนอกจากภาพยนตร์ผู้เช่าแล้ว ก็ยังมีงานละครต่อคิวรอเพียบ แถมแต่ละเรื่องนั้นจัดเต็มทุกเรื่อง ซึ่งเกณฑ์ในการเลือกรับงาน อำภาบอกว่า

“เราจะดูว่าถ้าเรื่องนี้หนัก วันเราพอให้ได้ไหม ใช้วันเราเยอะไหม เราก็จะรับตามกาลเวลาที่เรามีความรู้สึกว่าเราเล่นได้ ให้ได้ แต่บางทีก็ สมมุติพรุ่งนี้ถ่ายบทเยอะ วันนี้เราต้องทำงานและดูๆ บท พอถึงวันรุ่งขึ้น ถึงเวลานอน นอนเลย พอวันถ่าย เราต้องมีการซ้อม การซ้อมคือการได้ทวนของเราละ”

เป็นการทำงานแบบคนคุณภาพ

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image