เริ่มต้นขึ้นแล้วกับนิทรรศการ “ของขวัญแห่งมิตรภาพ: ราชอาณาจักรไทยและสหรัฐอเมริกา พ.ศ.2361-2561” นิทรรศการที่พลาดไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ได้นำวัตถุและสิ่งของซึ่งเป็นของขวัญจากพระมหากษัตริย์ไทยพระราชทานให้กับประธานาธิบดีสหรัฐ รวมถึงของขวัญที่ประธานาธิบดีสหรัฐถวายให้พระมหากษัตริย์ไทยตลอดในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา มาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยว และประชาชนผู้สนใจประวัติศาสตร์ได้เข้าชมเป็นครั้งแรก ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบรมมหาราชวัง โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจในประวัติศาสตร์ได้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา
ความพิเศษของนิทรรศการอยู่ที่วัตถุและสิ่งของทางประวัติศาสตร์ซึ่งไม่เคยนำไปจัดแสดงที่ใดมาก่อน รวบรวมจากสถาบันชั้นนำของสหรัฐอย่าง สถาบันสมิธโซเนียน องค์การหอจดหมายเหตุ รวมถึงหอสมุดประธานาธิบดีสหรัฐนับ 10 แห่งจำนวนนับร้อยชิ้น
โดยวัตถุต่างๆ นับย้อนไปตั้งแต่จดหมายภาษาโปรตุเกสของพระยาสุริยวศ์มนตรี (ดิศ บุนนาค)ถึงประธานาธิบดีเจมส์ มอนโร ซึ่งนับเป็นจดหมายฉบับแรกที่นับเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐในปีพ.ศ.2361
กล่องบุหรี่ทองคำที่หลวงประดิษฐ์มนูธรรม ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล มอบให้แก่ประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ ของขวัญชิ้นที่ว่ากันว่าช่วยเปลี่ยนประวัติศาสตร์ให้ไทยไม่ต้องตกเป็นผู้แพ้สงคราม
ฉลองพระองค์ครุย ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรรณไวทยากร กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ที่ถักทอขึ้นด้วยทองคำอย่างวิจิตรงดงาม ประทานแก่สถาบันสมิธโซเนียน ในปีพ.ศ.2490
รวมไปถึง ชุดเครื่องเขียนถมทองล้ำค่าที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่ประธานาธิบดีดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ เป็นต้น
เอกอัครราชทูตกลิน เดวีส์ ระบุว่า นิทรรศการ “ของขวัญแห่งมิตรภาพ” เป็นการบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์ไทยและประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาที่มีต่อเนื่องยาวนานหลายชั่วอายุคน แสดงให้เห็นถึงความเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน และเป็นโอกาสอันดีที่จะเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ที่โดดเด่นและพิเศษครั้งนี้
เอกอัครราชทูตเดวีส์ ระบุด้วยว่า วัตถุจัดแสดงที่ตนรู้สึกดึงดูดและน่าสนใจมากที่สุดก็คือ “ฉลองพระองค์ครุยที่พระองค์เจ้าวรรณไวทยากรประทานให้กับสถาบันสมิธโซเนียน เนื่องจากเป็นฉลองพระองค์ที่งดงามมากและทำจากทองคำ และมีความเก่าแก่ย้อนกลับไปถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 19 และเชื่อว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะเคยทรงฉลองพระองค์ครุยชุดนี้ด้วย” นายเดวีส์ระบุ
นายเทรเวอร์ เมอร์เรียน ภัณฑารักษ์จากพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน สหรัฐอเมริกา ระบุว่า นิทรรศการครั้งนี้น่าสนใจสำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์สหรัฐ-ไทย ผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ไทยยุคศตวรรษที่ 19 รวมถึงผู้สนใจเกี่ยวกับงานช่างฝีมือดั้งเดิมของไทยด้วยเช่นกัน
“ผมหวังว่าคนส่วนใหญ่จะได้รับรู้ว่าสหรัฐและไทยนั้นมีความสัมพันธ์ระหว่างกันที่พิเศษมากๆ และวัตถุทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ก็เป็นสัญลักษณ์สำคัญของมิตรภาพนั้น อย่างที่ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอร์น ได้ระบุเอาไว้ว่า “ของพระราชทานเหล่านี้เป็นเครื่องแสดง…ถึงเกียรติคุณต่อประเทศของเราทั้งสองยิ่งกว่ารางวัลชัยชนะใดๆทั้งปวง สืบนานเท่านาน” นายเมอร์เรียนระบุ
นายอภิชาต ชิตามิตร ที่ปรึกษาด้านบริหารและเทคโนโลยี ผู้เข้าชมนิทรรศการระบุว่า ตนเกษียณแล้วจบวิศวจุฬา อายุ 65 เคยทำงานอยู่สหรัฐอเมริกา 18 ปี ใช้เวลาว่างสนใจเกี่ยวกับความเป็นไทย สนใจประวัติศาสตร์และพระพุทธศาสนา และได้ทราบข่าวจากสื่อเลยเดินทางมาชม
“ของแต่ละชิ้นแสดงให้เห็นความคิดลึกซึ้งของพระมหากษัตริย์ไทยในการคัดเลือกของที่ระลึกเพื่อสร้างสัมพันธไมตรีกับสหรัฐอเมริกา” นายอภิชาต ระบุ และว่า ตนอยากจะเชิญชวนทุกๆคนให้มาชมนิทรรศการนี้ ของหลายๆสิ่งนั้นมีนัยยะสำคัญที่น่าสนใจที่ซ่อนอยู่ โดยเฉพาะการเรียนรู้เป็นให้เห็นด้วยตานั้นก็เป็นไปตามสำนวนที่ว่า ภาพหนึ่งภาพแทนคำพูดได้เป็นล้านๆคำ
“ประวัติศาสตร์ไม่ใช่เรื่องคร่ำครึ เราเรียนประวัติศาสตร์นั้นจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ในแต่ละสถานการณ์และยังเป็นบทเรียนที่จะเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตได้อย่างดียิ่ง” นายอภิชาติ กล่าว
ทั้งนี้นิทรรศการของขวัญแห่งมิตรภาพจะเปิดให้ชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00น.-16.30น. อัตราค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 150 บาท นักเรียนนักศึกษา 50 บาตร ขณะที่เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าชมฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 มิถุนายนนี้เท่านั้น
