ผู้เขียน | โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ |
---|
กระบวนการขจัด เผด็จการทหาร เพื่อเข้าสู่ระบอบ ‘ประชาธิปไตย’ ของอาร์เจนตินา
สาธารณรัฐ อาร์เจนตินา เป็นประเทศทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ มีพื้นที่ 2,780,400 ตารางกิโลเมตร นับเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในทวีปอเมริกาใต้ (รองจากบราซิล) และใหญ่เป็นอันดับที่ 8 ของโลก อาร์เจนตินาตั้งอยู่ในภูมิภาคกรวยใต้ร่วมกับชิลีทางทิศตะวันตก และยังมีพรมแดนติดต่อกับโบลิเวียและปารากวัยทางทิศเหนือ บราซิลทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อุรุกวัยและมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ทางทิศตะวันออก และช่องแคบเดรกทางทิศใต้
ประเทศอาร์เจนตินา ปกครองแบบสหพันธรัฐที่แบ่งออกเป็น 23 รัฐ กับ 1 นครปกครองตนเอง ซึ่งก็คือกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของสหพันธ์และเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ นครปกครองตนเองและรัฐต่างๆ มีธรรมนูญเป็นของตนเองแต่อยู่ภายใต้ระบบของสหพันธ์
ประเทศอาร์เจนตินามีรากฐานมาจากการยึดครองดินแดนเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิสเปนสืบเนื่องจากการค้นพบทวีปอเมริกาของสเปน ประชากรอาร์เจนตินากว่าร้อยละ 60 มีเชื้อสายเป็นชาวอิตาลี และวัฒนธรรมอาร์เจนตินาเกี่ยวโยงกับวัฒนธรรมอิตาลีอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากราวต้นปี พ.ศ.2400 (ตรงกับสมัย ร.4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) มีการอพยพเข้าของชาวอิตาลีจำนวนมากอพยพมายังอาร์เจนตินา ทำให้ประชากรอาร์เจนตินาเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า และเศรษฐกิจอาร์เจนตินาโตขึ้นประมาณ 15 เท่า เพราะเสถียรภาพทางการเมืองและนโยบายเสรีนิยมของรัฐบาล
การเพิ่มประชากรครั้งใหญ่นี้ทำให้อาร์เจนตินามีความเจริญรุ่งเรืองที่เพิ่มขึ้นอย่างมโหฬารทำให้อาร์เจนตินากลายเป็นประเทศที่มั่งคั่งที่สุดเป็นอันดับที่ 7 ของโลกในช่วงแรกของ พ.ศ.2400 จนกระทั่งเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ พ.ศ.2470 อาร์เจนตินาก็เข้าสู่ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมือง เกิดการรัฐประหารและความเสื่อมถอยทางเศรษฐกิจที่ผลักประเทศกลับเข้าสู่ภาวะล้าหลัง
ในช่วงนี้ที่ประเทศอาร์เจนตินา จึงเกิดการรัฐประหาร โดยคณะนายทหารถึง 6 ครั้ง คือใน พ.ศ.2473, พ.ศ.2486, พ.ศ.2498, พ.ศ.2505, พ.ศ.2509, พ.ศ.2519 ส่วนใหญ่ของการรัฐประหารในอาร์เจนตินาล้วนได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาทั้งสิ้น และการรัฐประหารทุกครั้งของอาร์เจนตินาก็จะทำการออกกฎหมายเพิ่มเติมอภิสิทธิ์ของกองทัพซึ่งเป็นเครื่องมือหลักของการรัฐประหารทุกครั้ง จนทำให้กองทัพของอาร์เจนตินาแทบจะกลายเป็นหน่วยงานเทวดาปราศจากการตรวจสอบ เป็นหน่วยงานแบบเหนือจริงคือจะแตะต้องตรวจสอบงบประมาณค่าใช้จ่ายในการซื้ออาวุธ ถึงขนาดเรือบรรทุกเครื่องบินและเครื่องบินรบประเภทเจ็ตที่ทันสมัย และเงินสืบราชการลับไม่ได้เลย
นอกจากนี้คณะทหารผู้ยึดอำนาจการปกครองยังได้ไล่ล่าและสังหารนักวิจารณ์การเมือง นักเคลื่อนไหว และฝ่ายซ้ายนับพันคนในปฏิบัติการที่เรียกว่า “สงครามสกปรก” จนกระทั่งรัฐบาลเผด็จการทหารของอาร์เจนตินาได้เปิดสงครามโจมตีหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ของอังกฤษใน พ.ศ.2525 จนสามารถยึดหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ได้สำเร็จเพื่อใช้สงครามเป็นเครื่องมือกลบเกลื่อนและปราบปรามการก่อการร้ายของรัฐบาลทหารอาร์เจนตินาโดยอ้างความรักชาติบังหน้า
ปรากฏว่าภายในระยะเวลา 10 สัปดาห์ อาร์เจนตินาก็พ่ายแพ้ต่ออังกฤษอย่างยับเยินทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในอาร์เจนตินาต่อรัฐบาลทหารที่ปกครองอยู่ ให้ล่มสลายและกลายมาเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นภายในประเทศอาร์เจนตินาตั้งแต่ พ.ศ.2526 เป็นต้นมา
ตั้งแต่ พ.ศ.2526 เป็นต้นมาก็มีการปฏิรูปกองทัพขนานใหญ่จนกระทั่งปัจจุบันหากเกิดสงครามฟอล์กแลนด์ขึ้นอีกครั้ง กองทัพอาร์เจนตินาก็จะไม่มีทางที่จะส่งทหารเข้ายึดหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ซึ่งอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่อาร์เจนตินา 483 กิโลเมตรได้เลย เนื่องจากอาร์เจนตินาไม่มีเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือลาดตระเวนขนาดใหญ่และเรือดำน้ำที่ใช้การได้เลย คงมีแต่เรือพิฆาตเพียง 3 ลำ เรือลาดตระเวนขนาดเล็ก 7 ลำ ล้วนแต่มีอายุ 50 กว่าปีแล้วทั้งนั้น นอกนั้นก็เป็นเรือยามฝั่งเท่านั้น หนักยิ่งกว่านั้นกองทัพอากาศอาร์เจนตินาล้วนแล้วแต่มีเครื่องบินรบอายุ 50-60 ปีทั้งสิ้น ส่วนใหญ่บินไม่ได้แล้ว พูดง่ายๆ ก็คือเมื่อมีการปฏิรูปกองทัพหลังจากขจัดเผด็จการทหารที่เป็นปรสิตของประเทศอาร์เจนตินาได้แล้ว ก็ไม่มีการเกณฑ์ทหารและไม่มีการซื้ออาวุธใหม่ทั้งสิ้น
ปัจจุบัน อาร์เจนตินาเป็นประเทศกำลังพัฒนา ที่ติดอันดับสูงมากในดัชนีการพัฒนามนุษย์ ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับที่ 2 ในลาตินอเมริการองจากประเทศชิลี อาร์เจนตินายังคงรักษาสถานะเก่าแก่ในฐานะประเทศที่มีอำนาจปานกลางในกิจการระหว่างประเทศ เป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในอเมริกาใต้ และเป็นสมาชิกของกลุ่ม 15 และกลุ่ม 20 นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกก่อตั้งของสหประชาชาติ เครือธนาคารโลก องค์การการค้าโลก ตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง ประชาคมรัฐลาตินอเมริกาและแคริบเบียน และองค์การรัฐไอบีโร-อเมริกา
ครับ ! ทั้งนี้เป็นเพราะสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนนโยบายไม่ให้การสนับสนุนเผด็จการทหารของประเทศทั่วโลกเพื่อเอาไว้ต่อต้านการขยายตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์อีกต่อไป ภายหลังการสิ้นสุดของสงครามเย็นทำให้รัฐบาลเผด็จการทหารทั่วโลกไม่มีที่พึ่ง จำเป็นต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงหรือล่มสลายไปตามธรรมชาตินั่นเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง