สำรวจอาณาจักรเวลา 9 รุ่นนาฬิกา ‘ไซโก’ ที่นักสะสม (ต้องมี)

สำรวจอาณาจักรเวลา 9 รุ่นนาฬิกา ‘ไซโก’ ที่นักสะสม (ต้องมี)

เริ่มต้นจากร้านขายนาฬิกาใจกลางกรุงโตเกียวที่ “ไซโก” (Seiko) ถือกำเนิด และถักทอเรื่องราวผ่านกาลเวลามาตลอด 140 ปี กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก หลายคนหลงใหลในความปราณีตและการออกแบบตามสุนทรียะของชาวญี่ปุ่น ขณะที่หลายคนก็ชื่นชอบแนวคิด และเรื่องราวที่แฝงอยู่ของแต่ละคอลเล็กชั่น

นาฬิกาทำหน้าที่บอกเวลา ขณะเดียวกัน “มูลค่า” ก็อยู่เหนือกาลเวลาด้วยเช่นกัน หลายคนจึงผันตัวจากการเป็นผู้ใช้งานสู่นักสะสมไปในที่สุด ซึ่งคอมมูนิตี้นักสะสมไซโกในประเทศไทยก็ไม่ใช่เล่นๆ สะท้อนจากสถานการณ์โควิด-19ที่หลายธุรกิจได้รับผลกระทบแต่ยอดขายของไซโกกลับเพิ่มขึ้นสวนกระแส

แจน – วรรฑณี วาทนากรณ์ ผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์การตลาด บจก.ไซโก (ประเทศไทย) เผยว่า หนึ่งในเหตุผลที่คนสะสมนาฬิกาเพราะเชื่อว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในอนาคต ด้วยในแต่ละรุ่นแม้จะขายดีแต่ก็ไม่ได้ผลิตมาขายตลอด เพราะมีช่วงเวลากำหนดว่าจะผลิตประมาณกี่ปี หลังจากนั้นก็จะหยุดผลิต (Discontinued) เมื่อมีรุ่นใหม่ออกมา

แจน – วรรฑณี วาทนากรณ์

และจากที่เคยคุยกับนักสะสมนาฬิการายหนึ่งเล่าว่าเคยซื้อเรือนหนึ่งมาในราคา 7,000 บาท เวลาผ่านไปมูลค่าในตลาดนักสะสมเพิ่มขึ้นถึง 4-5 หมื่น จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาก้าวเข้าสู่แวดวงนักสะสม

Advertisement

ทั้งนี้ นาฬิการุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นทุกเรือนของไซโก จะมีหมายเลขประจำเรือน (Running number) เรือนไหนเลขสวยก็จะมีมูลค่าเพิ่ม เช่น หมายเลขตัวเดียว 009 เลขตอง และ 168 ก็เป็นตัวเลขที่นิยมกันมากด้วยเชื่อว่ารวมกันแล้วเป็นสิริมงคล ขณะที่ “สี” และ “รุ่น” ของนาฬิกาก็เป็นอีกปัจจัย อย่าง สีแดง-น้ำเงิน เรียกว่า สีเป๊ปซี่, รุ่นซูโม่ และรุ่นมอนสเตอร์ เป็นต้น ซึ่งเป็นชื่อที่แฟนๆ เรียกติดปาก จนกลายเป็นมาตรฐานรับรู้ร่วมกันในแวดวง ซึ่งปัจจุบันสีที่ขายดีในไทยคือ “สีเขียว” เหนี่ยวทรัพย์

วรรฑณี ยังได้แนะนำนาฬิกาไซโก 9 รุ่นที่นักสะสมควรมี ไว้ดังนี้

Advertisement

1.นิว ไซโก ไฟฟ์ สปอร์ต (New Seiko 5 Sports) เหมาะกับผู้ที่ต้องการสะสมนาฬิกาเรือนแรก มีแรงบันดาลใจมาจากรุ่นเดิมที่แฟนๆ เรียกว่า “นาฬิกาคุณพ่อ” ออกแบบให้มีสีสันมากขึ้น ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ซึ่งสีที่ขายดีคือ สีเป๊ปซี่ สีเขียวอ่อนและเข้ม ถือเป็นหนึ่งในรุ่นท็อปเท็น

เลือก นิวไซโกไฟฟ์สปอร์ต 3 สี

2.มอนสเตอร์ (Monster – SRPH75K) สีเขียว ตัวเรือนมีลักษณะเหมือนคมเขี้ยวสัตว์ประหลาด ไฮไลต์อยู่ที่หน้าปัดนาฬิกาจะมีเพนกวินแหวกว่ายอยู่บนน้ำแข็ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญอนุรักษ์มหาสมุทรที่ได้รับผลกระทบมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม

3.ซามูไร (Samurai -SRPF09K) สีเป๊ปซี่ เป็นรุ่นและสีอมตะ ผลิตมานานแล้วแต่ยังได้รับความนิยมซื้อสะสม ด้วยตัวเรือนมีลักษณะคล้ายกับดาบซามูไร คาตานะ มีความเหลี่ยมคมที่ชัดเจน ประกอบกับตัวขอบนาฬิกาดีไซน์คล้ายรอยฟันของดาบซามูไรที่มีความสมมาตร เนี้ยบกริบ ทั้งยังได้รับการรับรองจาก PADI สมาคมผู้สอนการดำน้ำมืออาชีพ ดำน้ำได้ที่ความลึก 200 เมตร

4. อัลไฟนิสท์ (Alpinist – SPB121J) สีเขียว ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทือกเขาอัลไพน์ มีเข็มทิศที่สามารถใช้ได้จริง สายข้อมือทำมาจากหนังวัวพิมพ์ลาย ออกแบบให้มีกลิ่นอายวินเทจ ใส่ออกงานได้

5. สปีด ไทม์เมอร์ โซลาร์ (Speed Timer Solar – SSC813P) สีขาว ได้แรงบันดาลใจมานาฬิกาจับเวลาซึ่งใช้ในการแข่งขันกรีฑา กีฬาโอลิมปิกที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ รุ่นนี้ใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เหมาะกับคนที่ไม่อยากตั้งเวลาบ่อยๆ ถอดทิ้งไว้ที่ไหนก็ได้ หยิบมาใช้ได้เลย แต่ข้อพึงระวังคืออย่าเก็บไว้ในที่มืด เช่น ลิ้นชัก เป็นเวลานาน เพราะเมื่อนาฬิกาไม่โดนแสง ตัวที่เก็บพลังงานส่วนใหญ่จะเสื่อมได้

6.ซูโม่ (Sumo – SPB103J) สีเขียว ลักษณะเรือนนาฬิกาเหมือนสนามประลองซูโม และรูปทรงคล้ายกับซูโม่ที่รูปร่างกำยำ ตัวเครื่อง 6R สเปคสูง ใช้สำรองพลังงานได้มากกว่า ทำให้เวลาเที่ยงตรงมากขึ้น และรุ่นนี้ผลิตที่ญี่ปุ่นทั้งหมด

 

7. MM300 (SLA023J) MM ย่อมาจาก Marine master เป็นนาฬิกาดำน้ำที่ดีที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง คนที่ผันตัวจากผู้ใช้สู่นักสะสมจะเลือกสะสมตัวนี้เป็นตัวแรก ด้วยเป็นไซโกระดับไฮเอนด์

 

8.คิง ไซโก (King Seiko – SPB279J) สีขาว รุ่นคลาสสิก แรงบันดาลใจจากคิงไซโกรุ่นก่อน ออกแบบให้มีความเรียบง่าย ชัดเจน รุ่นนี้ไม่มีตัวเลขบนหน้าปัด ผู้ออกแบบต้องการให้ดูเวลาได้ชัดเจนในทุกมุมมอง

9. แอสตรอน ( Astron(Tita) – SSH001J) เด่นนวัตกรรม เรือนนี้ใช้ระบบดาวเทียมในการปรับเวลาอัตโนมัติ ใช้วัสดุไทเทเนียมจึงมีน้ำหนักเบา และใช้พลังงานสะอาดอย่างระบบพลังงานแสดงอาทิตย์ในการสำรองพลังงาน เหมาะสำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ

9 รุ่นน่าสะสม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image