ทริปสุดลักซูรี่ ล่องเรือหรู ‘อร่อยอาหารเลิศรส’ ชมวิวแม่น้ำสายประวัติศาสตร์ (คลิป)

ทริปสุดลักซูรี่ ล่องเรือหรู ‘อร่อยอาหารเลิศรส’ ชมวิวแม่น้ำสายประวัติศาสตร์

“เจ้าพระยา” เป็นหนึ่งในแม่น้ำที่มีความงดงามของธรรมชาติ เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม นับเป็น “สายน้ำแห่งประวัติศาสตร์” ของกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร

การได้นั่งเรือจิบเครื่องดื่ม รับลมเย็นๆ พร้อมรับประทานอาหารเลิศรส ชมวิวพระอาทิตย์ที่กำลังตกดินอยู่เบื้องหน้า ก็เป็นอีกหนึ่งในความสุขและประสบการณ์ที่หาได้ยาก

ยิ่งตอนนี้ สถานการณ์โควิด-19 ได้คลี่คลายลงแล้ว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงขานรับนโยบายรัฐบาลฟื้นฟูเศรษฐกิจ ดึงเรือล่องแม่น้ำ เรือเช่าเหมาลำท่องเที่ยว และเรือดินเนอร์ครูซสุดหรู จัดกิจกรรม “River Legacy” กระตุ้นการท่องเที่ยวพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางเรือ ชวนนักท่องเที่ยวไทยมาล่องเรือรับประทานอาหารเลิศรส ชื่นชมทัศนียภาพ 2 ริมฝั่งน้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนสุดแสนโรแมนติก เส้นทางจากไอคอนสยาม ไปสะพานพระราม 8 และย้อนล่องกลับไปเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์

จัดทริปนำร่อง “River Legacy : Review Saffron Cruise By Banyan Tree” ณ เรือแซฟฟรอน ครูซ โดยมี อภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธี

Advertisement

ชมคลิป

เปิดทริปสุดลักซูรี่ด้วย เรือมาเทียบท่ารับผู้โดยสารที่ท่าเรือ 2 ไอคอนสยาม เวลา 18.00 น. ผู้โดยสารทยอยลงเรือพร้อมปฏิบัติตามมาตการ “การ์ดไม่ตก” ตรวจวัดอุณหภูมิและฆ่าเชื้อด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนย่างเท้าขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าของเรือ โดดเด่นไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่หรูหรา อาทิ ดาดฟ้าเปิดโล่ง บาร์ และสกายบริดจ์ ดื่มด่ำบรรยากาศของเส้นขอบฟ้าอันงดงาม

Advertisement

ชมวิวแบบพาโนราม่า 360 องศา พร้อมรับลมเย็นๆ ที่พัดผ่านท่ามกลางแม่น้ำ

ลมเย็นๆ ของสายน้ำ เข้ากั๊นเข้ากันกับ “เวลคัม ดริงก์” เย็นฉ่ำ “แซฟรอน ซันเซ็ต” รสเปรี้ยวอมหวานจากกีวี มะนาว สับปะรด ท็อปด้วยโฟมลิ้นจี่ ความอร่อยที่ดื่มแก้วเดียวไม่พอ

สักประมาณ 15 นาที แซฟฟรอน ครูซ ก็เคลื่อนออกจากท่าน้ำ ให้ผู้โดยสารได้ชื่นชมทัศนียภาพ 2 ริมฝั่งเจ้าพระยา ถ่ายรูปบันทึกภาพความประทับใจ ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามโพล้เพล้ก่อนพระอาทิตย์อัสดง มองเห็นลำแสงสีทองอมส้มอร่ามไปทั่วทั้งคุ้งน้ำ

“แซฟฟรอน ครูซ” ล่องพาผู้โดยสารจากไอคอนสยาม ผ่านสถานที่สำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็น พระบรมมหาราชวัง วัดอรุณราชวราราม ป้อมวิชัยประสิทธิ์ สโมสรกองทัพเรือ ท่าน้ำวังหลัง โรงพยาบาลศิริราช ไปจนถึงย่านธุรกิจแสงสีเสียง ลอดใต้สะพานพระพุทธยอดฟ้า สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สะพานสะพานตากสิน และได้ชมความอลังการของสะพานพระราม 8 แบบใกล้ชิดเต็มๆ ตา

50 นาทีบนดาดฟ้าเรือ เรียกว่า เต็มอิ่มกับทัศนียภาพที่ได้ชื่นชมในอีกมุมมองหนึ่งกลางลำน้ำเจ้าพระยา ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย

อิ่มเอมกับวิวหลักล้าน ระดับซุปเปอร์พรีเมียมแล้ว ก็ถึงเวลา “ดินเนอร์” บนเรือในห้องแอร์ปรับอากาศเย็นฉ่ำ ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ใต้แสงไฟสลัวๆ ที่ด้านข้างของเรือออกแบบเป็นเรือนกระจกโค้ง ไม่ว่าจะนั่งตรงจุดไหนของห้องอาหาร ก็สามารถมองออกไปเห็นวิวภายนอกเรือได้ทุกจุด

โดยอาหารเสิร์ฟเป็นคอร์สให้ได้ลิ้มรสอาหารไทยแบบฟิวชั่นรสชาติละมุนลิ้น ประเดิมด้วย “ออเดิร์ฟ” เรียกน้ำย่อย สไตล์อาหารเหนือ ข้าวเกรียบ รับประทานคู่กับ น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง และชิลลิ มายองเนส

ตักทานคำเล็กๆ ลำแต๊ๆ เจ้า

ไม่นาน อาหารจานแรกก็มาเสิร์ฟ “แสร้งว่าหอยเชลล์มะม่วงเบาน้ำส้มซ่า” เมนูไทยโบราณ รสเปรี้ยวจากมะม่วงกับน้ำยำจากส้มซ่า รับประทานคู่กับหอยเชลล์ ที่ทั้งสดทั้งหวาน รสชาติจี๊ดจ๊าดไม่น้อย

แสร้งว่าหอยเชลล์มะม่วงเบาน้

ต่อด้วยจานซุป “ต้มแซ่บหมูคุโรบุตะใบกะเพราแดง” เนื้อหมูสุดนุ่มนำไปกริลเล็กน้อยที่เชฟตั้งใจทำแบบชาบู ราดด้วยน้ำซุปต้มกระดูกร้อนๆ ใบกะเพราแดงที่เคี่ยวนานกว่า 6 ชั่วโมง เพิ่มดีกรีความจี๊ดจ๊าดยิ่งขึ้นไปอีก

ต้มแซ่บหมูคุโรบุตะใบกะเพราแดง

ระหว่างรอเมนู “เมนคอร์ส” ก็ชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนที่สุดแสนจะโรแมนติกสำหรับคู่รัก และก็สุดแสนงดงามสำหรับคนมากับเพื่อน หรือครอบครัว

และเมนคอร์สก็ไม่ทำให้ผิดหวัง กับเมนู แกงกะทิปลาอินทรี จันทบุรีกับใบยี่หร่า เมนูกะทิรสชาติเข้มข้นจากพริกแกงภาคกลางและใต้ ส่วนปลาอินทรีก็เนื้อแน่นอร่อยเต็มคำ มาคู่กับเมนู กุ้งขาวคั่วพริกเกลือ กระเทียมโทนเชียงใหม่ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ที่ท็อปด้วยข้าวสมุนไพรด้านบน เสิร์ฟใส่กรวยประดับด้วยฟักทองแกะสลักสุดพิถีพิถัน ชวนให้อาหารน่าทานยิ่งไปอีก

แกงกะทิปลาอินทรี จันทบุรีกับใบยี่หร่า
กุ้งขาวคั่วพริกเกลือ กระเทียมโทนเชียงใหม่

ตบท้ายด้วยของหวาน “ส้มฉุนลิ้นจี่ และไอศกรีมเมี่ยงคำ” ไอศกรีมกระทิ หวานหอม ผสมกับเครื่องเคียงและซอสเมี่ยงคำ เสิร์ฟพร้อมใบบัวและใบชะพลู อร่อยเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ “ส้มฉุนลิ้นจี่” รสเปรี้ยวจากส้มโอ ส้ม และรสหวานจากลิ้นจี้ สดชื่นมากๆ

ส้มฉุนลิ้นจี่ และไอศกรีมเมี่ยงคำ

อิ่มทั้งท้องอิ่มทั้งใจ ทั้งทริปใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง เป็นอีกหนึ่งความสุขและประสบการณ์แปลกใหม่ที่ถ้าสนใจไปสัมผัส สามารถเลือกแพคเกจล่องเรือ ยามพลบค่ำและเพลิดเพลินไปกับอาหารชั้นเลิศเสิร์ฟเป็นคอร์สจากห้องอาหารไทยร่วมสมัย แซฟฟรอน (Saffron) ห้องอาหารชื่อดังของโรงแรมบันยันทรี โทร 0-2679-1000 ต่อแผนกรับจองอาหาร www.facebook/BanyanTreeHotels ส่วนแพคเกจเรือลำอื่นๆ ที่เข้าร่วมโครงการ River Legacy หาซื้อบัตรได้แล้วตั้งแต่วันนี้-30 กันยายน 2563 และสามารถใช้บัตรได้ไปจนถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2563 โปรโมชั่นต่างๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cruiseko.com (ครุย เซโกะ) หรือติดต่อได้ที่ โทร 09-9449-6690

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image