สำรวจตัวเอง! กินเก่ง กินตลอด ‘หิว’ หรือ ‘เป็นโรค’ รู้จัก ‘โรคกินไม่หยุด’
อาหารเดี๋ยวนี้ตกแต่งหน้าตาดูสวยงาม กลิ่นห้อมหอม รสชาติดี มีให้เลือกมากมาย เจอทีเป็นต้องกิน บางทีเพิ่งกินมา แต่ของของชอบ ก็ซื้อไปกินต่อเลย จนบางครั้งอดสงสัยไม่ได้ว่า นี่เราหิวหรือเป็นโรคอะไรรึเปล่า!
ทำความรู้จัก “โรคกินไม่หยุด” Binge Eating Disorder (BED) แนะนำโดยโรงพยาบาลศิครินทร์ ดังนี้
โรคกินไม่หยุด คือ อาการรับประทานอาหารปริมาณมากผิดปกติโดยที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ผู้ที่มีอาการโรคกินไม่หยุดนี้ มักมีการรับประทานอาหารปริมาณมากกว่าปกติแม้ไม่รู้สึกหิว และไม่สามารถควบคุมการรับประทานของตนเองได้
ส่วนสาเหตุของอาการโรคกินไม่หยุด ปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุใด แต่คาดว่าอาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยเป็นตัวกระตุ้น โดยโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และปัจจัยที่อาจส่งผลให้เกิดโรคนี้ เช่น
-โรคอ้วน พบว่าผู้ที่มีอาการโรคกินไม่หยุด มักมีโรคอ้วนเป็นโรคประจำตัว
-ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
-ขาดความมั่นใจในรูปร่าง และมีความพึงพอใจในรูปร่างของตนเองต่ำ
-เสพติดการลดน้ำหนัก เครียดกับการลดน้ำหนัก หรือเคยล้มเหลวในการลดน้ำหนัก
-เคยผ่านเหตุการณ์สะเทือนใจ
-มีประวัติคนในครอบครัวมีความเกี่ยวข้องกับโรคการกินผิดปกติ
-มีภาวะทางจิต อาทิ โรคซึมเศร้า โรคเครียด โรคไบโพลาร์ โรคกลัว (Phobias) และภาวะป่วยทางจิตหลังเหตุการณ์รุนแรง (Post-traumatic Stress Disorder: PTSD)
ผู้มีอาการเสี่ยงเป็นโรคกินไม่หยุด มักมีพฤติกรรม ได้แก่
-รับประทานอาหารมากกว่าปกติ แม้ไม่หิว
-หยุดรับประทานไม่ได้แม้จะอิ่มแล้วก็ตาม
-รับประทานอาหารปริมาณมากๆ อย่างรวดเร็วในระยะเวลาไม่นาน
-อาจมีอาการข้างต่นตั้งแต่ 1-3 ครั้ง/สัปดาห์ และผู้ป่วยมักรู้สึกผิด เศร้า โกรธ ละอายใจ รังเกียจ หรือโทษตนเองที่รับประทานมากเกินไป
แน่นอนเมื่อกินไม่หยุด “ปัญหาสุขภาพ” ร้ายแรงก็อาจตามมา อาทิ
-โรคความดันโลหิตสูง
-โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง
-ภาวะน้ำหนักเกิน และโรคอ้วน
-เบาหวานชนิดที่ 2
-ปัญหาทางอารมณ์ เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล
-ภาวะคอเลสเตอรอลสูง ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
-ปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อไทรอยด์ และอาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไข่ไม่ตก จึงทำให้ตั้งครรภ์ได้ยากขึ้นด้วย จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
โดยการรักษาโรคกินไม่หยุด แพทย์อาจเลือกวิธีการรักษาที่สอดคล้องกับอาการและสาเหตุของโรคมากที่สุด คือ การใช้ยา หรือ การเข้ารับจิตบำบัด หากพบว่าตนเองหรือคนในครอบครัวมีอาการเสี่ยง หรือเข้าข่ายอาการของโรคกินไม่หยุด (BED) สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยเพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี