ภาษาพาแซ่บ! ควันหลง “ออสการ์” กับ “เลดี้ กาก้า”

Singer Lady Gaga performs on stage at the 88th Oscars on February 28, 2016 in Hollywood, California. AFP PHOTO / MARK RALSTON

สวัสดีจ้ะ กลับมาแว้ว หลังจากหายหน้าหายตาไปหนึ่งสัปดาห์ เพราะหวัดเจ้ากรรม หรือเพราะคำแช่งของยัยเจ๊กากก็มะรุ

ตอนนี้ถึงยังเปื่อยอยู่ก็ต้องเขียนถึงเธอ เพราะอยากกกกก เล่าความประทับใจจากเวทีแจกรางวัลออสการ์ ปีนี้ให้ฟังมากถึงมากที่สุด

ฉันไม่เคยรู้สึกกับงานออสการ์ปีไหนเหมือนปีนี้มาก่อนเลยนะ จะบอกให้

ปีนี้ มีรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน Vice President Joe Biden กับ Lady Gaga ของเราขึ้นเวที เพื่อรณรงค์ต่อต้าน “การล่วงละเมิดทางเพศในมหาวิทยาลัย” หรือ “campus sexual assault” ที่เป็นปัญหาหนักหนาสาหัสอยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยที่หลายๆ คนไม่เคยรับรู้

Advertisement

ไบเดนพูดสั้นๆ แต่ได้ใจความมาก กระตุ้นให้อเมริกันทุกคนช่วยกันต่อต้านเรื่องนี้ encouraged Americans to take action against campus sexual assault แล้วก็เชิญชวนให้ทุกคนเข้าไปสัมผัสความเป็นจริงจาก “เหยื่อ” ทั้งหลาย ที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งที่เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยไปจนตลอดชีวิต ในเว็บไซต์ชื่อ It”sOnUs.org

It”sOnUs มันอยู่กับเรา ติดตัวเป็น “ตราบาป” จนตลอดไป…

ท่านไบเดนยังเป็นผู้แนะนำตัว Lady Gaga ที่ออกมาร้องเพลง “Till It Happens To You” แบบทุ่มทั้งตัวทั้งหัวใจเข้าไปในบทเพลงที่เธอขับร้อง

Advertisement

ระหว่างนั้น มี “เหยื่อ” จริงๆ จำนวนหนึ่ง ทยอยปรากฏตัวด้านหน้าเวที dozens of grim-faced young men and women stepped forward อวดท่อนแขนที่เขียนคำแตกต่างกันออกไป อาทิ “Survivor” “You Are Love” “Unbreakable” และ “Not Your Fault.”

“Survivor” บ่งบอกถึงว่า คนทั้งกลุ่มเหล่านั้นคือเหยื่อ

“You Are Love” คือความพยายามใช้ความรักเป็นเครื่องเยียวยาตัวเองและมอบเป็นความปรารถนาดีต่อทุกคน

“Unbreakable” แสดงถึงความไม่ยอมสยบต่อชะตากรรม แม้จะลำเค็ญแค่ไหนก็ตาม

“Not Your Fault.” ไม่ใช่ความผิดของคุณ แล้วเป็นความผิดใครล่ะ? แล้วจะแก้ไขกันยังไงล่ะ? วลีนี้กระตุกให้ทุกคนคิดได้ชะงัดนักล่ะ

คิดดูเถอะ ทั้งหมดปรากฏขึ้นในระหว่างที่ Lady Gaga ใส่อารมณ์ร้องเพลงที่มีเนื้อหาโดยรวมๆ ว่า ไม่มีวันมีใครเข้าใจถึงสิ่งที่คนเหล่านี้รู้สึกได้อย่างแท้จริง จนกว่าสิ่งเดียวกันนั้นจะเกิดขึ้นกับคุณ

เนื้อร้องท่อนแรก ว่าไว้ยังงี้จ้ะ

“You tell me it gets better, it gets better in time

You say I”ll pull myself together, pull it together, you”ll be fine

Tell me, what the hell do you know? What do you know?

Tell me how the hell could you know? How could you know?”

ฉันไม่อยากแปลคำต่อคำ แต่ความหมายของมันก็คือ บางทีเราก็บอกให้คนที่ตกเป็นเหยื่อจากกรณีเช่นนี้ให้ทำใจ ใช้เวลาเพื่อเยียวยาทุกอย่างให้ดีขึ้น ทำความรู้สึกให้ดีขึ้น รวบรวมกำลังกายกำลังใจเข้าด้วยกันอีกครั้ง แต่เราเคยรู้หรือเปล่าว่า คนที่เจอะเจอมานั้นทุกข์แค่ไหน บอบช้ำเพียงใด และเศร้าใจมากมายเพียงใด

เราจะรู้ได้จริงก็ต่อเมื่อเราเจอด้วยตัวเองทั้งนั้นแหละจ้ะ

เล่นเอาหลายคนในงานน้ำตาซึมกันเป็นแถว

Lady Gaga บอกว่า เพลงนี้สำคัญกับตัวเธอเองมาก ไม่ใช่เพราะร่วมเขียนคำร้องด้วย แต่เป็นเพราะ

“One in 5 women will be raped before they finish college.” ผู้หญิง 1 คน ในทุกๆ 5 คนถูกข่มขืนในมหาวิทยาลัย

ท่านไบเดนบอกว่า “Let”s change the culture,” มาช่วยกันเปลี่ยนวัฒนธรรมนี้กันเถอะ

ย้ำด้วยว่า “We must, and we can.”

เราต้องทำและเราทำได้แน่…ถ้าทุกคนร่วมกันทำ

บ๊ายบายจ้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image