เปิดใจ ‘วิลาสินี’ ทายาท ‘ยัสปาล’ รุ่นที่ 3 ทำอย่างไรให้แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทยแท้ มีภาพลักษณ์โกลบอล ครองใจเหล่าแฟชั่นนิสต้ามายาวนาน 50 ปี
อยู่คู่ประเทศไทยมาครบ 50 ปี สำหรับแบรนด์ JASPAL (ยัสปาล) ที่หลายคนเข้าใจว่า เป็นแบรนด์ต่างประเทศ แต่ในความจริงแล้ว เป็นแบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทย ที่มีภาพลักษณ์อินเตอร์ระดับ “โกลบอล” ครองใจเหล่าแฟชั่นนิสต้ามายาวนานถึงครึ่งศตวรรษ
ยัสปาลได้สร้างปรากกฎการณ์ครั้งสำคัญในวงการแฟชั่นของไทยกับการร่วมงานกับพรีเซ็นเตอร์ซุปเปอร์โมเดลระดับโลก ทั้ง ซินดี ครอว์ฟอร์ด, คลาวเดีย ชิฟเฟอร์, จิเซล บุนเชน และต่อเนื่องมาถึงเซเลบริตี้ระดับโลกมากมาย อย่าง เคต มอส, มิลลา โยโววิช, อเล็กซา ชุง เป็นต้น
จากนั้น ได้ยกระดับแบรนด์ขึ้นไปอีกขั้นสู่การคอลลาบอเรชั่นกับแบรนด์แฟชั่นระดับโกลบอล อาทิ คอลเลกชั่นพิเศษกับ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์, ไดแอน วอน เฟิร์สเทนเบิร์ก ดีไซเนอร์หญิงแห่งวงการแฟชั่นอเมริกา, ออร์ลา คีลี่ ดีไซเนอร์ชื่อดังจากประเทศอังกฤษ โดดเด่นในการออกแบบลายปริ้นท์, อังเดร ศิลปินกราฟฟิตี้ชาวสวีเดนชื่อดังระดับโลก, แฮตตี้ สจ๊วต ศิลปินชาวอังกฤษ, ลินนี่ ซี อาร์ติสท์ชื่อดังจากลอนดอน, เมแกน เฮส นักวาดภาพประกอบด้านแฟชั่นและออกแบบกราฟิกฝีมือระดับโลก
รวมไปถึงคาแรกเตอร์ยอดนิยมที่มีแฟนๆ ชื่นชอบทั่วโลก เช่น สมายลี่, ดิสนีย์, การ์ฟิลด์
ล่าสุดกับการคว้าลิขสิทธิ์ Official Licensed Products เป็นแบรนด์แฟชั่นเพียงหนึ่งเดียวในไทย ในการออกแบบร่วมกับทางฟีฟ่า กับสินค้าที่ได้รับลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการ “FIFA WORLD CUP QATAR 2022” ซึ่งทั้งหมดนี้นับเป็นการตอกย้ำมาตรฐานแบรนด์สัญชาติไทยที่ได้รับการยอมรับจากแบรนด์ดังระดับโลก
- เติบโตมากับยัสปาล
ยัสปาลใช้กลยุทธ์อะไรในการบริหารธุรกิจ จนกลายเป็นเป็นแบรนด์ในตำนานที่ยืนหยัดคู่เมืองไทยมาได้ถึง 50 ปี “วิลาสินี สิงห์สัจจเทศ” ทายาทรุ่นที่ 3 ของกลุ่มธุรกิจยัสปาล บุตรสาวของ วิสิทธิ์ สิงห์สัจจเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุดบริษัท ยัสปาล จำกัด ซึ่งเป็นรุ่นที่ 2 ได้ออกมาเผยถึงการเดินทางของแบรนด์ที่กว่าจะมาถึงวันนี้…ยัสปาลก็เริ่มจากร้านขายเสื้อผ้าเล็กๆ ที่สยามเซ็นเตอร์
วิลาสินีจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ เอกการตลาด จากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล และปริญญาโท ด้าน Fashion marketing จาก London Collage of Fashion และเข้ามาร่วมงานในธุรกิจของบริษัทในปี 2549
ในช่วง 7 ปีแรกของการทำงาน เธอได้ทำงานให้แบรนด์ JASPAL จากนั้นในปี 2555 จึงได้เริ่มต้นก่อตั้งแบรนด์ใหม่ คือ Misty Mynx (มิสตี้ มิงช์) เพื่อต่อยอดธุรกิจ บริษัทฯ โดย Misty Mynx เป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ และความต้องการอันหลากหลายของผู้หญิง ช่วยส่งเสริมให้ทุกคนแสดงออกได้อย่างมั่นใจ มีเสน่ห์ และสนุกสนานในแบบที่เป็นตนเองในทุกๆ โอกาส ไม่ว่าจะเป็นไปทำงาน เที่ยวเล่นในวันว่าง ปาร์ตี้ พักผ่อน รวมไปถึงกิจกรรมการออกกำลังกาย
ปัจจุบัน ภายใต้ตำแหน่งผู้อำนวยการแบรนด์ JASPAL และ Misty Mynx วิลาสินี เป็นผู้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางงานดีไซน์ของแบรนด์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้คอลเลกชั่นเสื้อผ้าออกมาถูกใจลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคอลเลกชั่น Time Flies ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นพิเศษเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของแบรนด์ JASPAL ในปี 2565 นี้
- ดีเอ็นเอของยัสปาล
วิลาสินี เล่าว่า ก่อนจะมาเป็นแบรนด์ยัสปาล เราเริ่มจากรุ่นคุณปู่ มร.ยัสปาล ซิงห์ ซึ่งเป็นคนอินเดีย เข้ามาในประเทศไทยโดยมาเริ่มต้นธุรกิจที่ย่านพาหุรัด กรุงเทพฯ โดยการนำเข้าผลิตภัณฑ์ผ้าลินินและเครื่องนอนคุณภาพสูงมาจำหน่ายในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2490 กระทั่งปี 2515 คุณพ่อวิสิทธิ์ สิงห์สัจจเทศ ได้ก่อตั้งร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์ยัสปาล ขึ้นเป็นครั้งแรกที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์
“ร้านแรกที่สยามเซ็นเตอร์ เราเริ่มจากการเป็นธุรกิจนำเข้าก่อน ก็มีผ้าและเครื่องประดับนิดหน่อย จนคุณพ่อหันมาทำธุรกิจแฟชั่นเรดดี้ ทู แวร์ และจากตรงนั้นก็เติบโตมาเป็นยัสปาลที่เป็นอย่างทุกวันนี้ ซึ่งเราตั้งแต่จำความได้ก็ไปช่วยคุณพ่อคุณแม่เปิดร้าน ปิดร้านเอง ที่สยามเซ็นเตอร์ บางทีหลังเลิกเรียนก็ไปนั่งทำการบ้านในห้องสต๊อก มาช่วยคุณแม่ขายของ ยืนหลังเคาท์เตอร์ เป็นแคชเชียร์บ้าง จะคลุกคลีกับตรงนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ก็ทำให้เราชอบมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบด้านนี้มาตลอด จนตัดสินใจเรียนปริญญาตรีสาขาธุรกิจก่อน และไปเรียนปริญญาโทสาขาแฟชั่น แต่ก็เป็นทางด้านธุรกิจ เพื่อที่จะมาต่อยอด เพราะคิดไว้ตลอดว่าจะมาสืบสานงานต่อ” วิลาสินีย้อนเล่าความทรงจำ
สำหรับดีเอ็นเอของยัสปาล วิลาสินี เผยว่า คือความร่วมสมัย มีความโมเดิร์น ความโก้ ความหรู แต่ก็ยังมีความสนุกกับความเป็นแฟชั่นเทรนด์ เสื้อผ้ายัสปาลตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี สวมใส่ได้หลายโอกาส ทั้งกลางวันและกลางคืน
“แต่สิ่งที่ยัสปาลโฟกัส คือ เรื่องคุณภาพและบริการให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นมาตั้งแต่วันแรก เราจะเน้นในเรื่องของคุณภาพที่เริ่มตั้งแต่เนื้อผ้าที่เรานำเข้ามา จนถึงการดีไซน์ และมาถึงการตัดเย็บที่ทำให้เสื้อผ้าของยัสปาล เป็นเสื้อผ้าที่ใส่ได้นานและบ่อยครั้ง”
- โกลเบิลมายด์เซ็ท
ด้วยภาพลักษณ์แบรนด์ที่มีความเป็นอินเตอร์ วิลาสินี เผยว่า มายด์เซ็ทของแบรนด์ คือความเป็นโกลเบิล ที่ร่วมงานกับพรีเซ็นเตอร์ซุปเปอร์โมเดลระดับโลก จากนั้น ได้ยกระดับแบรนด์ขึ้นไปอีกขั้นสู่การคอลลาบอเรชั่นกับแบรนด์แฟชั่นระดับโกลบอล รวมไปถึงคาแรกเตอร์ยอดนิยมที่มีแฟนๆ ชื่นชอบทั่วโลก
“ยัสปาลมีภาพลักษณ์ของความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล เป็นแบรนด์ไทยที่มีมายด์เซ็ทที่มีความเป็นโกลเบิลเป็นภาพหลักมาตลอด และด้วยโลกที่เปลี่ยน ความเป็นโลกาภิวัตน์ ทำให้มีลูกค้าต่างชาติเข้ามาในเมืองไทย เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว เราก็ทำให้แบรนด์เรามีความเป็นโกลเบิล ก็มีคนรู้จักเราจากที่เราทำงานกับต่างชาติ”
- ฉลองครบรอบ 50 ปี
สำหรับคอลเลกชั่นพิเศษในโอกาสครบรอบ 50 ปี ยัสปาลได้รังสรรค์คอลเลกชันใหม่พร้อมลายโมโนแกรมดีไซน์อักษร J ในลักษณะ 3 มิติ วางซ้อนทับเกิดเป็นลวดลายที่แปลกใหม่ สะดุดตา สะท้อนอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของแบรนด์ และได้เผยภาพแคมเปญโฆษณา ซึ่งได้ช่างภาพแฟชั่นชื่อดัง “อเล็กซานเดอร์ ซาลาดิเกรส” มาเป็นผู้ถ่ายทอดมุมมองในคอนเซปต์ Time Flies โดยเลือก Trans World Airlines Flight Center ของสนามบินนานาชาติ จอห์น เอฟ. เคเนดี้ ที่โดดเด่นด้วยงานสถาปัตยกรรมยุค 70 สไตล์ ออร์แกนิค โมเดิร์น รูปทรงเรขาคณิต อันเป็นสัญลักษณ์ของมหานครนิวยอร์ก เป็นโลเคชั่น สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านของเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการเดินทางของแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งตลอด 50 ปี
- ไม่หยุดนิ่งแม้สำเร็จ
วิลาสินี เผยว่า ตลอด 50 ปี ยัสปาลได้พัฒนาและปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่เสมอ จากจุดเริ่มต้นสร้างแบรนด์แฟชั่น Ready to Wear สัญชาติไทย ที่สามารถครองใจลูกค้า ทั้งในด้านของความคุ้มค่า คุณภาพ และดีไซน์ และเราไม่เคยหยุดนิ่ง พยายามรีเฟรซแบรนด์ตลอดเวลา และเราก็ไม่เคยลืมเรื่องคุณภาพ บริการที่เรามีให้ลูกค้า ปัจจุบันเรามีทั้งหมด 52 สาขา และพร้อมจะรุกต่างประเทศในปีหน้า ที่จะไปที่กัมพูชาเป็นประเทศแรก
นอกจากมายด์เซ็ทของแบรนด์ในเรื่องความเป็นโกลเบิลแล้ว วิลาสินี มีวิสัยทัศน์ในการทำงานในเรื่องของความเชื่อมั่นและมีความรักในสิ่งที่ทำ ทำงานอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ รวมไปถึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทีมงาน เพื่อให้การทำงานมีจุดหมายไปในทางเดียวกัน สามารถนำเสนองานอันเป็นพึงพอใจของลูกค้าได้ และสิ่งที่สำคัญ คือ การทำงานจะต้องเป็นเรื่องที่สนุก และมีความแอคทีฟ เตรียมพร้อมรับสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา
เพราะแฟชั่น คือ สิ่งที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
ทั้งนี้ จากจุดเริ่มต้นของการเปิดร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่นในแบรนด์ ยัสปาลสู่ผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าแฟชั่นของไทยมายาวนานกว่า 50 ปี บริษัท ยัสปาล จำกัด เป็นผู้ออกแบบและจัดจำหน่ายแบรนด์เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แอคเซสเซอรี่และสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่ได้รับความนิยมครองใจแฟชั่นนิสต้าของไทยมาโดยตลอด ได้แก่แบรนด์ JASPAL, CPS CHAPS, LYN, CC DOUBLE O, Lyn around, Jelly Bunny, Misty Mynx, ROYAL IVY REGATTA และ QUINN
รวมทั้งยังเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยให้กับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลกมากมาย อาทิ FRED PERRY, Melissa, Shoebar, ASICS และ DIESEL นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ต่อยอดขยายธุรกิจจากแฟชั่นไปยังกลุ่มธุรกิจทั้งคาแฟ่และความงาม เช่น C.P.S. COFFEE และ LYN BEAUTY เพื่อสร้างประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจรให้กับลูกค้า โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาของแบรนด์แฟชั่นต่างๆ รวมกว่า 400 แห่งในประเทศไทย และอีกกว่า 60 แห่งในต่างประเทศ
