“ศรีสุวรรณ”ยื่นฟ้องศาลปกครองให้ระงับขี้นค่ารถเมล์ ชี้เพิ่มภาระประชาชน ขอไต่สวนฉุกเฉินให้ศาลคุ้มครองก่อนพิพากษา

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 เม.ย.ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยกับชาวกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวม 30 คนได้เดินทางมายื่นฟ้องคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางต่อศาลปกครองกลาง
พร้อมกับยื่นคำขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อขอให้ศาลทุเลาการบังคับใช้คำสั่งขึ้นค่ารถโดยสารรถเมล์เป็นการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา

โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันที่เป็นต้นทุนหลักของการประกอบกิจการของรถโดยสาร ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงผกผันไปในทิศทางที่แพงขึ้นแต่อย่างใด อีกทั้งไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐ และการบริการสาธารณะ แต่ถ้าปล่อยให้มติของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง นำไปสู่การปฏิบัติในวันที่ 22 เมษา 62 นี้เป็นต้นไปจะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงยากแก่การเยียวยาภายหลัง เนื่องจากมีประชาชนคนยากคนจนเป็นจำนวนมากที่จะได้รับผลกระทบจากคำสั่งทางปกครองดังกล่าว ซึ่งต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคนยากคนจน คนหาเช้ากินค่ำยันถึงหนุ่มสาวคนชั้นกลางที่พึ่งจะมีรายได้จากการทำงาน ถือได้ว่าเป็นการสร้างภาระให้เกิดขึ้นกับประชาชนเกินสมควร ตาม ม.9(1) แห่งพรบ.จัดตั้งและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542

ซึ่งในการฟ้องครั้งนี้ได้มีคำขอท้ายฟ้อง คือ 1)ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาหรือคำวินิจฉัยว่าการใช้อำนาจทางปกครองของผู้ถูกฟ้องคดีในการอนุมัติให้กำหนด (ปรับปรุง) อัตราค่าโดยสาร รถโดยสารประจำทางสาธารณะใหม่-เก่า ในหลาย ๆ หมวด ทั้งหมดดังกล่าว “เป็นการสร้างภาระให้เกิดขึ้นกับประชาชนเกินสมควร” ตามมาตรา 9(1) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542

และ 2)ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเพิกถอนหรือระงับมติของผู้ถูกฟ้องคดีครั้งที่ 10/2561 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 ที่อนุมัติให้กำหนด (ปรับปรุง) อัตราค่าโดยสาร รถโดยสารประจำทางสาธารณะใหม่-เก่า ในหลาย ๆ หมวด ทั้งหมดหรือบางส่วนเสีย หรือแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร

Advertisement

ทั้งนี้นายศรีสุวรรณยังเรียกร้องให้นักการเมือง-พรรคการเมืองทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ทุกพรรค ที่เคยอวดอ้างในขณะหาเสียงก่อนหน้านี้ว่ารักประชาชน ห่วงใยในความทุกข์-สุขของประชาชน ให้หันมาใส่ใจดูแลประชาชนเพื่อร่วมกดดันเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ทั้งระบบด้วย อย่ามัวแต่เอาเวลาไปชิงดีชิงเด่นกันจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่เห็นหัวประชาชนเลย นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน นายบรรยงค์ อัมพรตระกูล ประธานสหพันธ์รถเมล์ กทม. และปริมณฑล และประธานชมรมรถร่วม ขสมก. ได้เดินทางมารอยื่นศาลปกครองเพื่อคัดค้านคำฟ้องของนายศรีสุวรรณ พร้อมขอความเป็นธรรม โดยระบุเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องมีการปรับขึ้นค่าโดยสาร เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินการบริการเดินรถสูงเกินรายรับ ปัจจุบันมีรถร่วมบริการ NGV วิ่งบริการ 6,000 คัน แต่สามารถวิ่งให้บริการได้เพียง 1,600 คัน ส่วนที่เหลือต้องจอดทิ้งไว้ เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายเพียงพอในการซ่อมบำรุง การจ่ายค่าจ้างพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร รวมถึงค่าเช่าสถานที่จอด ทั้งนี้เห็นว่าการขึ้นค่าโดยสารเพียง 1 บาท ก็ยังไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการรถร่วม รถเมล์ได้ตั๋ว 400 ใบ ใบละ 9 บาท รวมวันละ 3,600 บาท แต่หากนับรวมค่าบำรุง ค่าซ่อม ค่าพนักงานขับรถ มีค่าใช้จ่ายเกินรายรับ 200 บาท ทั้งนี้ในอนาคตก็มีแผนจะนำรถเมล์ NGV มาใช้ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือ 4,000 คัน หากไม่สามารถขึ้นค่าโดยสารที่เหมาะสม ก็จะไม่สามารถนำรถใหม่มาให้บริการ ซึ่งรถใหม่ที่นำมาวิ่งจะใช้ระบบ E-Ticket แทนพนักงานเก็บค่าโดยสารเพื่อลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 22 เมษายน เวลา 10.00 น. ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนในคดีที่นายศรีสุวรรณ ยื่นฟ้องคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เพื่อให้ขอให้คำพิพากษาเพิกถอนมติของคณะกรรมการ วันที่ 14 ธันวาคม 2561 ที่ได้อนุมัติให้มีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร รถโดยสารประจำทางสาธารณะทั้งใหม่และเก่า ในหลายๆหมวด ในอัตราตั้งแต่ 1-7 บาท ที่จะให้มีการปรับราคาขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 22 เมษายนนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image