เลื่อนอ่านฎีกาบุกบ้าน’ป๋า’ เหตุ ‘วีระกานต์’ป่วย ส่งหมายไม่ถึง

เมื่อเวลา10.00 น.วันที่ 31 ก.ค.ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีชุมนุมล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ปี 2550 คดีหมายเลขดำ อ.3531/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน, นายวันชัย นาพุทธา, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช., นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนพ.เหวง โตจิราการ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-7 มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกไปแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง, 215, 216, 297, 298 ประกอบมาตรา 33, 83 และ 91

กรณีเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2550 แกนนำและแนวร่วม นปช. นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคน จากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่สนามหลวง ไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของพล.อ.เปรม เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าว มีการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ ซึ่งนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ได้ใช้ไม้เสาธง ตีประทุษร้ายร่างกาย ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ นามจันทร์เจียม เป็นเหตุให้กระดูกข้อมือแตกเป็นอันตรายสาหัส

คดีศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.58 ให้จำคุกนายนพรุจ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ฯ ส่วนนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และนพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 คนละ 4 ปี 4 เดือน ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายฯ และเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของ เจ้าพนักงานฯ และให้ยกฟ้อง นายวีระศักดิ์ และนายวันชัย จำเลยที่ 2-3 พร้อมให้ริบของกลางทั้งหมด

Advertisement

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ม.ค.60 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดฐานเป็น ผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ ตามมาตรา 138 วรรคสอง ให้จำคุกคนละ 1 ปี และมีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายโดยเป็นหัวหน้าสั่งการ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามมาตรา 215 วรรคหนึ่งและวรรคสาม, มาตรา 216 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 215 วรรคสาม เพียงกรรมเดียว จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 4 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน นอกเหนือจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนนายนพรุจ จำเลยที่ 1 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญาทั้งหมด

โดยในวันนี้ นายนพรุจจำเลยที่1 ,นายณัฐวุฒิ จำเลยที่ 5 ,นายวิภูแถลงจำเลยที่ 6 และนายแพทย์เหวง จำเลยที่ 7 เดินทางมาศาล ส่วนนายวีระกานต์จำเลยที่ 4 ไม่ได้เดินทางมา

เมื่อถึงเวลานัดทนายความนายวีระกานต์ได้ยื่นคำร้องขอให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาในคดีนี้ออกไปก่อนเนื่องจากนายวีระกานต์ป่วยพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งเเต่วันที่ 30 ก.ค.พร้อมส่งใบรับรองเเพทย์รับรองประกอบกับยังไม่ได้รับหมายศาล จึงขอให้เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในวันนี้ออกไปสักพัก

Advertisement

ศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่าได้ตรวจสอบเเล้วว่ายังไม่สามารถส่งหมายให้จำเลยที่ 4-5 เเต่จำเลยที่ 5 ทราบมาตามนัดประกอบกับจำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องประกอบใบรับรองเเพทย์มาจึงอนุญาตให้เลื่อนไปอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้งในวันที้ 23 ก.ย.เวลา 9.00 น.

โดยในวันนี้ มีแกนนำ นปช. หลายคน เดินทางมาให้กำลังใจจำเลย เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ , นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ และ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก

โดยนายจตุพร กล่าวว่าวันนี้เดินทางมาให้กำลังใจจำเลยทุกคน และสำหรับคดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศน์มีจำเลยที่เกี่ยวข้องประมาณ 15 คน แบ่งเป็นคดีนี้ 7 คน และคดีที่มีตนเป็นจำเลยร่วมอีก 8 คน ซึ่งต้องรอคำพิพากษาจากคดีนี้ก่อน

ด้านนายณัฐวุฒิ ระบุว่า วันเกิดเหตุไม่ได้บุกเข้าไปในบ้านแต่อยู่บริเวณด้านหน้า แต่เหตุการณ์บานปลายเกิดจากเจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตากับประชาชน
ทั้งที่ได้แจ้งหัวหน้าชุดที่ควบคุมการปฎิบัติการ ซึ่งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในขณะนั้นไว้แล้วว่าจะปักหลักไม่เกินเที่ยงคืนแล้วกลับสนามหลวง และได้แถลงต่อศาลไปหมดแล้ว แต่ผลคำพิพากษาจะออกมาอย่างไรก็ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล และไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจ และการกระทำ

นอกจากนี้นายณัฐวุฒิ ยังระบุว่าไม่กังวลใจใดๆเพราะคดีนี้เป็นการต่อสู้ทางการเมือง เปรียบเสมือนการยืนตากฝนย่อมไม่กลัวเปียก และวันนี้แม้ว่าจะได้กลับบ้านหรือไม่ ก็ยึดหลักการเดิมไม่ยอมรับรัฐประหาร และขอบคุณประชาชนที่ส่งกำลังใจมาให้ตนได้รับแล้ว

ขณะที่นายแพทย์เหวง 1 ใน จำเลย ระบุว่าวันนี้ไม่หนักใจพร้อมน้อมรับคำพิพากษา แม้จะต้องติดคุกก็ไม่เป็นอะไร เพราะเคยติดคุกมาก่อนหน้านี้ ส่วนจำเลยจะเดินทางมาทั้งหมดหรือไม่ เห็นว่าหากทุกคนได้รับหมายถ้ามีสำนึกก็ควรเดินทางมา

ขณะที่นายนพรุจ จำเลยที่ 1 ที่ถูกดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ได้อ่านแถลงการณ์ขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้พบพิรุธในใบรับรองแพทย์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ามีการพักรักษาตัวเพียง 3 วัน ไม่ได้บาดเจ็บสาหัส ซึ่งได้ยื่นฎีกาไปแล้ว และไม่ว่าวันนี้ผลจะออกมาอย่างไรก็พร้อมน้อมรับ

ส่วนบรรยากาศบริเวณศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก วันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พหลโยธิน จัดกำลังตำรวจมาดูแลความเรีบบร้อยโดยรอบจำนวน 15 นาย และดูแลความสะดวกด้านการจราจรอีก 5 นาย และภายในห้องพิจารณาคดีมีกลุ่มคนที่เดินทางมาให้กำลังใจแกนนำ นปช. ร่วมฟังคำพิพากษาจนเต็มห้องพิจารณาคดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image