แกะรอยโจรชิงเงิน ธ.ก.ส. สาขา เฉลิมพระเกียรติร.9 จ่อหมายจับตามภาพวงจรปิดวันนี้ ตรวจสอบป้ายทะเบียนจยย.ของจริง
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 เมษายน ที่ สน.ประเวศ ล่าสุด พ.ต.อ.สมโภช สุวรรณจรัส ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุคนร้ายเป็นชายก่อเหตุใช้อาวุธปืน บุกเข้าไปชิงทรัพย์ภายในธนาคารเพื่อการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) สาขา เฉลิมพระเกียรติร.9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ ได้เงินไปทั้งสิ้น 100,600 บาท ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปว่า เบื้องต้นได้สั่งชุดสืบสวน แกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตั้งแต่ จุดเกิดเหตุไปยังปลายทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เป็นข้อมูลเชิงสืบสวน ที่อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคล
จากการตรวจสอบทะเบียน รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายก่อเหตุพบว่าเป็นทะเบียนจริง แล้วต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่าทะเบียนดังกล่าวเป็นของใคร ยังเชื่อว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว ยังไม่ยืนยันว่ามีการมาดูลาดเลาก่อนหรือไม่ เพราะเมื่อวานนี้เป็นวันแรกที่ธนาคารปิดเวลา 15.00 น. ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุจะเป็นโจรมืออาชีพหรือโจรช่วงโควิด-19 หรือไม่นั้นยังไม่ยืนยัน ซึ่งจากการสอบปากคำพยานแวดล้อมทั้งหมด 5 ปาก เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร พนักงานรักษาความปลอดภัย คาดว่า วันนี้เตรียมขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุตามภาพในกล้องวงจรปิด ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านสาธารณะ
โดยวันนี้เวลา 15.00 น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผบช.น. จะเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่ สน.ประเวศ
ขณะที่นายชลาธิป วงศ์จำปา พนักงานรักษาความปลอดภัยของธนาคาร เชื่อว่า คนร้ายน่าจะมาดูลาดเลาก่อนเพราะรู้ความเคลื่อนไหวและเวลาปิดเปิดของธนาคารเป็นอย่างดี ถ้าหากมาในช่วงธนาคารเปิดทำการก็จะจุดคัดกรองโควิด-19 จะถูกตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจอาวุธ ไม่สามารถเข้าไปภายในธนาคารได้ง่ายๆ คนร้ายจึงเลือกลงมือในช่วงที่ธนาคารใกล้ปิดก็คือเวลาประมาณบ่าย3โมง ซึ่งกล้องวงจรปิดทั้ง 8 ตัว ที่อยู่บริเวณด้านหน้าธนาคาร 2 ตัวด้านหลังธนาคาร 1 ตัวและภายในธนาคารอีก 5 ตัว สามารถบันทึกภาพของคนร้ายได้อย่างชัดเจนโดยคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 5 นาที ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิกสีดำที่จอดไว้หน้าธนาคาร หลบหนีไปตามถนนเฉลิมพระเกียรติซอย 9 มุ่งหน้าลาดกระบังซึ่งจะมีเส้นทางแยกย่อยที่สามารถออกไปได้หลายเส้นทางทั้งบางนา ราม 2 กิ่งแก้ว พัฒนาการ ศรีนครินทร์ ประเวศ โดยยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตัวเองอยู่ในเหตุการณ์และได้เผชิญหน้ากับคนร้าย เพราะช่วงเวลานั้น คนร้ายใช้อาวุธปืนข่มขู่ ปืนขึ้นลำกล้องยืนห่างกันไม่ถึง2เมตร
