เหยี่ยวถลาลม 21 กรกฎาคม 2563 : โหมโรง
“ป้ายสี” เป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นก่อนจะลงมือขั้น “ทำร้าย”
ฝ่ายที่จะลุกขึ้นมาต่อต้านอำนาจเผด็จการต้องศึกษา “ประวัติศาสตร์”
ฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจ ทหาร ตลอดจนเจ้าหน้าที่ กทม.หรือจังหวัดซึ่งจะต้อง “รับมือ” กับผู้ต่อต้านอำนาจรัฐก็ควรมีความรู้ด้าน “ประวัติศาสตร์”
ความเข้าใจ “เหตุการณ์” กับ “เหตุผล” ในอดีตอาจทำให้ไม่ลงมือฆ่ากัน !
คนที่เคยเป็นเด็กหรือเยาวชนคนหนุ่มสาวอายุราว 16-18 เมื่อปี พ.ศ.2519 ถึงตอนนี้อายุ 60-62 ปีแล้ว
ก่อนจะเกิดเหตุล้อมฆ่าผู้ชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 นั้นมีการ “ป้ายสี” กันมาก่อน
ภายหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ก็เริ่มมีการป้ายสีอย่างมีแบบแผนเป็น
กระบวนการ
ใช้เวลา 3 ปี ผูกเรื่องราวให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาลูกหลานผู้เต็มไปด้วยความฝันความหวังและพลังให้กลายเป็น “ส่วนหนึ่ง” ของคอมมิวนิสต์
“การป้ายสี” เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนจะลงมือ “ทำร้าย”
ที่รัฐทำไปพร้อมๆ กับการป้ายสีคือจัดตั้งมวลชนที่เรียกว่า “ขวาพิฆาตซ้าย” ปลุกระดม ปั่นหัว จุดไฟความเกลียดชังขึ้นในใจจนถึงจุดเดือดแล้วใช้ทั้งทหาร ตำรวจ และกองกำลังพลเรือน นวพล กระทิงแดง ลูกเสือชาวบ้านปฏิบัติการ
การล้อมฆ่าผู้ชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 6 ตุลา 2519 โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย !
ลำดับถัดมาคือ 14-19 พฤษภา 2553
ที่เรียกว่า “กระชับวงล้อม” หรือ “ขอคืนพื้นที่” คือสัญญาณนองเลือด
“ชายชุดดำ” คือวาทกรรมสำคัญที่นำมาใช้สร้างความชอบธรรมเพื่อ “ใช้กระสุนจริง” ก่อนที่จะใช้อาวุธสงครามและสไนเปอร์ยิงจริง และตายจริง !
ศึกษาประวัติศาสตร์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศไทย ไม่ใช่เพื่อให้หวาดผวา ขลาดกลัว จนไม่กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้กับเผด็จการ
หากแต่เมื่อรู้ว่า “การป้ายสี” จะเกิดขึ้นก่อน “การทำลายล้าง” ก็ต้องคิดค้นออกแบบทั้ง “ยุทธศาสตร์” และ “ยุทธวิธี” การต่อสู้ใหม่
ไม่ให้ซ้ำรอย บทเรียนเลือด 6 ตุลา 19 กับ 14-19 พฤษภา 53 !
รัฐประหาร 2 ครั้ง 2549 กับ 2557 ปราบ “ผีทักษิณ” จนสิ้นฤทธิ์
พอถึงปี พ.ศ.2562 กลับมีดาวฤกษ์ทางการเมืองอุบัติใหม่
“ธนาธร” กับความสำเร็จของพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบกลายเป็นปีศาจหลอนเผด็จการ
เมื่อวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม “กลุ่มเยาวชนปลดแอก” นัดชิมลางไล่เผด็จการกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
เริ่มมี “สัญญาณภัย” เมื่อ “ชายชุดดำ” ปรากฏตัว !?!!