ศาลอุทธรณ์แก้โทษ จำเลยยูฟัน แม่ข่ายระดับสูง-เกย์นที จำคุกชดใช้เงินกว่า 300 ล้าน

ศาลอุทธรณ์แก้โทษ จำเลยยูฟัน แม่ข่ายระดับสูง-เกย์นที จำคุกชดใช้เงินกว่า 300 ล้าน

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษ จำเลยยูฟันบางส่วนหลุดคดี แต่ยังให้แม่ข่ายระดับสูง-เกย์นทีต้องจำคุกพร้อมชดใช้เงินกว่า 300 ล้าน ให้ผู้เสียหายรอลุ้นฎีกาต่อไป

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 กรกฎาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอภิชณัฏฐ์ แสนกล้า แม่ข่ายระดับสูงยูฟันสโตร์, นายนที ธีระโรจนพงษ์ ผู้ดำเนินรายการ Take Side by เกย์นที ที่เผยแพร่ผ่านช่องยูทูบ ที่นำแผนธุรกิจของยูฟันฯเกี่ยวกับการลงทุนใน “U TOKEN” หรือยูโทเคน และยังเป็นนักเคลื่อนไหวความหลากหลายทางเพศ, เครือข่ายแชร์ลูกโซ่บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด ที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชน, ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว, บริษัท ยู เทรดดิ้ง จำกัด, กลุ่มผู้บริหารสัญชาติมาเลเซีย และจีน ที่เป็นกรรมการบริษัทที่ปรึกษาการเงินของยูฟันฯ เป็นจำเลยที่ 1-43 ในความผิด 5 ข้อหา ฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556, พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดแบบขายตรง พ.ศ.2545, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 พร้อมทั้งมีคำขอให้จำเลยร่วมกันคืนเงินจำนวน 356,211,209 บาท แก่ผู้เสียหายทั้ง 2,451 คน รวมกับดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

กรณีเมื่อวันที่ 25 ต.ค.56-18 มิ.ย.58 บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด ได้ชักชวนบุคคลเข้าร่วมในเครือข่ายในการประกอบธุรกิจน้ำผลไม้และสมุนไพรกับเครื่องสำอางผิวหน้า และทำให้หลงเชื่อว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่าย แต่ภายหลังหลอกลวงขายหน่วยลงทุนทางอิเล็กทรอนิกส์ จำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ หรือที่เรียกว่า “U TOKEN” หรือยูโทเคน ที่อ้างว่าได้รับความนิยมและยอมรับในต่างประเทศ ซึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยระหว่างพิจารณามีผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมด้วย
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 มี.ค.60 ว่าให้จำคุกจำเลยที่ 1, 2, 4, 6, 11, 12, 13 ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุด 2,451 กระทง กระทงละ 5 ปี เป็นเวลารวม 12,255 ปี และให้จำคุกอีกคนละ 10 ปี ฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกสูงสุดตามกฎหมาย 50 ปี

Advertisement

และให้จำคุกจำเลยที่ 7 ฐานกู้ยืมเงินฯ 2,451 กระทง กระทงละ 5 ปี เป็นเวลารวม 12,255 ปี, ให้จำคุก 10 ปี ฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, จำคุกอีก 2 ปี ฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกสูงสุดตามกฎหมาย 50 ปี

พร้อมกับให้ปรับ บริษัท ยูเทรดดิ้ง จำกัด จำเลยที่ 42 ฐานกู้ยืมเงินฯ 2,451 กระทง กระทงละ 500,000 บาท และให้ปรับฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติอีก 200,000 บาท รวมปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 1,225,700,000 บาท

ส่วนจำเลยที่ 5, 15, 16, 22, 23, 29, 31, 36, 37, 40 ให้จำคุกฐานกู้ยืมเงินฯ 2,451 กระทง กระทงละ 5 ปี คนละ 12,255 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกสูงสุดตามกฎหมาย 20 ปี
สำหรับจำเลยที่ 17, 19, 27 ให้จำคุกฐานกู้ยืมเงินฯ 2,451 กระทง กระทงละ 5 ปี คนละ 12,255 ปี และฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ จำคุกอีกคนละ 2 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกสูงสุดตามกฎหมาย 20 ปี

Advertisement

โดยให้จำเลยที่ 1, 2, 4, 5, 6, 7, 11, 12, 13, 15, 16, 17, 19, 22, 23, 27, 29, 31, 36, 37, 40, 42 ร่วมกันคืนเงินจำนวน 356,211,209 บาท ให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 2,451 คน ตามจำนวนที่แต่ละคนถูกฉ้อโกงไป พร้อมให้ชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ให้กู้ยืม หรือวันสุดท้ายที่ให้กู้ยืม หรือวันสุดท้ายของเดือนที่ให้กู้ยืม และให้ริบทรัพย์สินที่เป็นเงินสดของกลางด้วย และให้ยกฟ้องจำเลย 21 คน (ประกอบด้วยจำเลยที่ 3, 8, 9, 10, 14, 18, 20, 21, 24, 25, 26, 28, 30, 32, 33, 34, 35, 38, 39, 41, 43) ซึ่งได้รับการปล่อยตัวหลังศาลพิพากษายกฟ้อง

ต่อมา ทั้งโจทก์และจำเลยที่ 1, 2, 4, 5, 6, 7, 11, 12, 13, 15, 16, 17, 19, 22, 23, 27, 29, 31, 36, 37, 40, 42 ยื่นอุทธรณ์ ขณะที่วันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลยทั้งชาย หญิง จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และทัณฑสถานหญิงกลางมาศาลพร้อมฟังคำพิพากษา

โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมหารือกันแล้วเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยบางส่วนฟังขึ้น จึงพิพากษา แก้เป็นว่า จำเลยที่ 7 คงมีความผิด จำนวน 2,451 กระทง กระทงละ 5 ปี คนละ 12,255 ปี ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และจำคุกอีก 2 ปี ฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกสูงสุดตามกฎหมาย 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) โดยให้ยกฟ้องฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1, 2, 6, 11 ในความผิดฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยจำเลยยังคงมีโทษ ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกสูงสุดตามกฎหมาย 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) (เดิมศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกสูงสุด 50 ปี)
นายนที จำเลยที่ 27 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(1) และที่จำเลย 27 อ้างว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับ บ.ยูฟันฯ หรือบริษัทในเครือและไม่เคยชักชวนให้บุคคลใดร่วมลงทุนนั้น ข้ออ้างมีน้ำหนักน้อยและขัดกับพฤติกรรม ไม่สามารถรับฟังหักล้างพยานหลักฐานโจทก์และโจทก์ร่วมได้จึงฟังได้ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าร่วมกับ บ.ยูฟันฯ กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและฉ้อโกงประชาชนนั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยที่ 27 ฟังไม่ขึ้น

พร้อมทั้งให้ยกฟ้องจำเลยที่ 15, 16, 22, 23, 29, 31, 36, 37, 40 ที่เคยถูกพิพากษาจำคุก ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 17, 19 ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยให้ยกคำขอที่จะให้จำเลยที่ 15, 16, 17, 19, 22, 23, 29, 31, 36, 37, 40 ร่วมกันคืนเงินที่ฉ้อโกงแก่ผู้เสียหาย

อย่างไรก็ตาม นอกจากที่ได้พิพากษาแก้แล้ว ส่วนอื่นก็ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และยังคงให้จำเลยที่ 1, 2, 4, 5, 6, 7, 11, 12, 13 ซึ่งเป็นกลุ่มแม่ข่ายระดับสูง 27, 42 ร่วมกันคืนเงินจำนวน 356,211,209 บาท ให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 2,451 คน ตามจำนวนที่แต่ละคนถูกฉ้อโกงไป พร้อมให้ชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ให้กู้ยืม หรือวันสุดท้ายที่ให้กู้ยืม หรือวันสุดท้ายของเดือนที่ให้กู้ยืม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำพิพากษาที่อ่านวันนี้ยังคงเป็นคำวินิจฉัยชั้นอุทธรณ์ โดยคดีนี้โจทก์จำเลยยังยื่นฎีกาได้อีกตามกฎหมาย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image