เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 สิงหาคม ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ พร้อม ดร.วิเชียร เตชะไพบูลย์ รองประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดให้ผู้ถูกคุมประพฤติทำงานบริการสังคม โดยมีผู้บริหารของกรมคุมประพฤติ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมเป็นพยานในข้อตกลงดังกล่าว เพื่อสร้างจิตสำนึกและตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมเกี่ยวกับผลกระทบอันเกิดจากความประมาทและขาดความรับผิดชอบในการใช้รถใช้ถนน รวมถึงคดีอื่นๆ ที่สร้างปัญหาและความรุนแรงต่อสังคม
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 1-15 จะดำเนินการคัดเลือกผู้ถูกคุมประพฤติ และส่งไปทำงานบริการสังคม ด้วยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยร่วมกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เพื่อสร้างจิตสำนึกและตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม อีกทั้งยังทำให้ผู้ถูกคุมประพฤติมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นต่อไป ทั้งนี้ กฎหมายเดิมไม่ได้ให้อำนาจในส่วนนี้กับกรมคุมประพฤติ เพียงแต่บอกว่าให้เจ้าพนักงานคุมประพฤติกับผู้ถูกคุมประพฤติหารือร่วมกันว่าจะทำอะไรบ้าง ดังนั้นขณะนี้เมื่อกฎหมายใหม่ออกมา ทำให้เรามีอิสระมากขึ้นเหมือนกับยักษ์มีกระบอง คือในการออกแบบกิจกรรมต่างๆ
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวต่อว่า วัตถุประสงค์ให้ผู้ถูกคุมประพฤติ เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายที่มีโทษไม่เกิน 3 ปี หรือ 5 ปี เข้ามามีส่วนแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการทำงานบริการให้กับสังคม สิ่งสำคัญคือนอกจากจะป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำ ยังทำให้เกิดความหลาบจำและความรู้สึกที่ดี โดยมีครู อาจารย์ หรือพ่อแบบ และแม่แบบ ที่คอยสอนกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้สามารถเปลี่ยนตัวเองได้จากภายในและกลับมาเป็นคนดี เหมือนกับภารกิจคืนคนดีสู่สังคมของกระทรวงยุติธรรม อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวมีการหารือร่วมกันและเห็นชอบในหลักการ ก่อนจะมีการทำพิธีลงนามกันในวันนี้
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวอีกว่า จากนี้จะส่งผู้ถูกคุมประพฤติไปทำงานบริการสังคมตามที่ได้เห็นชอบและออกแบบร่วมกันกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อย่ากังวลว่างานบริการสังคมจะมีแต่การเก็บศพเพียงอย่างเดียว เนื่องจากการเก็บศพ การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ รวมถึงการเป็นผู้สังเกตการณ์ในรถตระเวนตามแหล่งที่เกิดอุบัติเหตุนั้น เป็นการบริการสังคมในขั้นสูง เรียกว่าเป็นผู้ถูกคุมประพฤติในประเภทหนักและรุนแรง เราต้องคัดกรองเป็นพิเศษ แต่การให้บริการสังคมโดยทั่วไป หากเป็นระดับเบาที่จะทำร่วมกับมูลนิธิฯ สามารถทำได้ตั้งแต่งานธุรการ การช่วยแจกอาหาร และทำความสะอาด ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเก็บศพเพียงอย่างเดียว เราจะคัดกรองร่วมกับมูลนิธิฯ และออกแบบกิจกรรมให้กับผู้ถูกคุมประพฤติ ทั้งนี้กลุ่มที่มีความเหมาะสมที่จะทำงานบริการสังคมกับมูลนิธิฯ คงเป็นผู้ถูกกระทำผิดฝ่าฝืนกฎจราจรชนคนเจ็บ ตาย หรือสาหัส เพื่อให้เขาได้รับรู้และรับทราบความสูญเสีย
ด้าน ดร.วิเชียร กล่าวว่า การร่วมมือกันระหว่างกรมคุมประพฤติและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่มีเจตนารมณ์เดียวกันในการสนับสนุนและส่งเสริมให้สังคมมีความปกติสุข นอกจากจะร่วมดูแลผู้ถูกคุมความประพฤติในการทำงานบริการสังคมแล้ว ยังให้ความรู้และส่งเสริมด้านวิชาการที่เกี่ยวข้องที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของทั้งสองหน่วยงาน โดยสนับสนุนวิทยากร และผู้เชี่ยวชาญที่สอดคล้องและเหมาะสมกับการทำงานบริการสังคมอีกด้วย
