ผงะ!อดีตสาวเจ้าของบาร์เบียร์เปิดหนังหัวอักเสบโชว์ไหมศัลยกรรม โอดไม่กล้าเข้าสังคมหน้าพังสวมแมสก์3ปี

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ สน.วังทองหลาง น.ส.ไรวินท์ ลอว์สัน อายุ 59 ปี อดีตเจ้าของบาร์เบียร์ พร้อมทนายความ เข้าพบ ร.ต.อ.ไพศาล ใจซื่อ รอง สว.(สอบสวน) สน.วังทองหลาง เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำเส้นไหม ความยาวประมาณ 2 ซม. ที่คาอยู่ในแผลที่เกิดจากการศัลยกรรมเมื่อปี 2561 ของโครงการศัลยกรรมชื่อดังแห่งหนึ่งมาประกอบการทำสำนวน

น.ส.ไรวินท์กล่าวว่า เมื่อปี 2561 ตนได้ติดต่อกับโครงการศัลยกรรมชื่อดังแห่งหนึ่ง จากนั้นโครงการได้ส่งตัวมาศัลยกรรมที่ รพ.แห่งหนึ่ง ย่านวังทองหลาง ยอมรับว่าก่อนที่จะเข้าโครงการดังกล่าว เคยทำศัลยกรรมโดยการฉีดซิลิโคนเหลวเข้าบริเวณใบหน้า แก้มาแล้วหลายครั้งไม่ประสบผล จึงตัดสินใจขายกิจการบาร์เบียร์ของตัวเอง เพื่อนำเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตมาเข้าโครงการทำศัลยกรรมผ่าตัด เนื่องจากมีการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ว่า สามารถนำซิลิโคนออก ดึงหน้ากระชับ ไร้รอยแผลเป็น ไม่เจ็บไม่บวมไม่ช้ำ จึงตัดสินใจทำที่นี่ แต่ภายหลังเข้ารับผ่าตัดศัลยกรรม ปรากฏว่าไม่เป็นไปตามที่ตนต้องการ ใบหน้าเหี่ยวย่นมากกว่าเดิม มีก้อนเนื้อปูดขึ้นมาที่ใบหน้า ปากเบี้ยว และมีแผลที่เกิดจากการผ่าตัดบริเวณศีรษะ ทำให้ตนไม่กล้าพบปะเข้าสังคม จะไปไหนแต่ละครั้งต้องใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า จนเหมือนกับตัวประหลาดมาตลอด 3 ปี ได้แต่อ้างว่าเป็นภูมิแพ้ กระทั่ง ช่วงนี้มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือว่าโชคดี เพราะการเดินใส่แมสก์ออกนอกบ้านไม่ได้ดูผิดปกติ

น.ส.ไรวินท์กล่าวต่อว่า ส่วนการเรียกร้องค่าเสียหายจากคลินิกศัลยกรรมนั้น ตนได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.พญาไท ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งมีการนำเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล ส่วนที่มาโรงพักวันนี้ เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้ ตนพบว่าแผลเป็นที่ศีรษะที่เกิดจากการทำศัลยกรรมเมื่อปี 2561 เกิดอาการอักเสบเป็นหนองและมีเส้นไหมโผล่ออกมา เมื่อไปพบแพทย์ แพทย์แนะนำให้ดึงไหมออก พร้อมระบุว่าแผลเกิดจากการดึงเส้นไหมที่เกิดจากการผ่าตัดออกมาไม่หมดจนทำให้แผลไม่หายและเกิดอาการอักเสบ หลังจากดึงเส้นไหมออกมาแล้วพบว่ามีเส้นไหมยาวประมาณ 2 เซนติเมตรอยู่ใต้หนังศีรษะจริง จึงนำมาเป็นหลักฐานและลงบันทึกประจำวัน เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาคดีที่อยู่ในชั้นศาล ซึ่งศาลได้นัดสืบพยานครั้งแรกช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้

น.ส.ไรวินท์กล่าวอีกว่า หลังทำศัลยกรรม โครงการได้นำภาพตนก่อนทำศัลยกรรมไปตกแต่งให้ดูแก่เกินความเป็นจริง เพื่อทำภาพโปรโมตก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการและเผยแพร่ผ่านทางโลกโซเชียล ทำให้มีคนมาคอมเมนต์ด่าทอตน ทั้งนี้ ตนไม่ต้องการรับการเยียวยา แต่อยากให้โรงพยาบาลรับผิดชอบแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบนใบหน้าตน จึงตัดสินใจเรียกเงินเป็นค่าเสียหายจำนวนหนึ่งไป

Advertisement

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้ลงในบันทึกประจำวันก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image