ตัวแทนชาวบ้านชุมชนประชาสังเคราะห์ เดินหน้าของพึ่งเมตตาจากศาลปกครอง หลังฟ้องกรณีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม อัดรฟม.สร้างทุกข์ พร้อมเดินหน้าสู้เต็มที่ ชี้ทางขอให้ยึดแนวดำเนินการเดิมที่ส่งผลกระทบน้อยที่สุด
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่สำนักงานศาลปกครองสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นายประทีป นิลวรรณ ประธานชุมชนซอยแม่เนี้ยว แยก 3 พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านชุมชนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร จำนวน 50 คน ได้เดินทางมาให้แถลงชี้แจงต่อศาลตามคดีหมายเลขดำที่ ฟ. 9/2559 กรณีข้อพิพาท คดีพิพาทเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของพระราชกฤษฎีกา หรือกฎที่ออกโดยคณะรัฐมนตรี หรือโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี โดยนายประทีป นิลวรรณ กับพวกรวม 281 คน ได้ยื่นคำฟ้อง นายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 3 คน และศาลได้รับคำฟ้องเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2559
นายประทีบ กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านในชุมชนประชาสงเคราะห์ เดินทางมายังศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้ข้อมูลแก่ศาลให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงต่าง ๆ รวมถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจาการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ในช่วงสถานีประชาสงเคราะห์ ที่ดำเนินการโดย รฟม. หรือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านนับร้อยครอบครัว อันสืบเนื่องมาจาการทำงานของ รฟม. ซึ่งมีมากมายหลายกรณี อาทิ เส้นทางในการก่อสร้าง รฟม. เคยศึกษาเส้นทางดินแดงพระราม 9 มาก่อน พร้อมมีเอกสารรายงานว่า ค่าก่อสร้างถูกกว่า เหมาะสมกว่า ผลกระทบต่อประชาชนน้อยกว่า พร้อมกับ ทางนายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในสมัยนั้น ได้มีเอกสารออกมาแจ้งต่อทางชุมชน ว่าทาง รฟม. เปลี่ยนเส้นทางไปทางดินแดง พระราม 9 เนื่องจาก มีจำนวนผู้ใช้เท่ากัน และ การก่อสร้าง สามารถทำได้ ตามหลักวิศวกรรม เหมือนกัน แต่สุดท้าย เมื่อเข้าที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เอกสารที่รฟม.นำเสนอ ต่อประธาน คจร. กลับบอกว่า การก่อสร้างดินแดงพระราม 9 แพงกว่า ทำให้ คจร. ตัดสินว่า ควรเลือกเส้นทางที่ผ่านชุมชน อีกทั้งบริษัทที่ปรึกษา มีการแจ้งกับทาง รฟม. ว่าประชาชนเห็นด้วย ทั้งที่ประชาชนคัดค้านอยู่มากมาย ทำให้ชาวบ้านรู้สึกถึงความไม่ถูกต้อง จึงนำไปสู่การแจ้งความร้องทุกข์ รวมถึงวิธีการก่อสร้างที่จากเดิมจากจะใช้หัวเจาะ แต่กลับมาเปลี่ยนเป็นการเปิดหน้าดินแทน เป็นต้น
” วันนี้พวกเราชาวชุมชนประชาสงเคราะห์ต้องลุกขึ้นมาสู้เพื่อเป็นการปกป้องบ้านตนเอง เพื่อให้ทางรฟม. ได้ยึดแนวทางในการก่อสร้างตามที่สำรวจไว้แต่เดิม รวมถึงทำตามที่ประชาชนร้องขอ พวกเราไม่ได้คัดค้าน เรายินดีมากด้วยซ้ำไปที่จะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าเส้นนี้ แต่สิ่งที่รฟม.เลือกทำนั้นได้สร้างความทุกข์ให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีมุมมองที่ไม่เป็นมิตร อย่างการที่ รฟม.ก็ไปเขียนคำแถลงต่อศาลว่า ในช่วงสถานีประชาสงเคราะห์ที่จะก่อสร้างนี้ ชาวบ้านในชุมชนมีการคัดค้านอย่างรุนแรงมาก บอกได้ว่า ไม่มีอย่างที่กล่าวหาเลย หรือ การจัดทำข้อมูลต่าง ๆก็เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ไม่ตรงประเด็น อย่างการศึกษา อีไอเอ และอื่นๆ สิ่งที่รฟม.ทำ จึงเป็นสิ่งที่บอกได้ว่า ไม่ถูกต้องจึงทำให้เราต้องลุกขึ้นสู้อย่างถึงที่สุด ” นายประทีป กล่าว
