เมื่อเวลา09.00น.วันที่ 17 สิงหาคม ที่กองบินตำรวจ ดอนเมือง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.(มค.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานคดีระเบิดและเหตุเพลิงไหม้ใน 7 จังหวัดภาคใต้ พบมีผู้เกี่ยวข้องในการกระทำผิดมากกว่า 10 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุกระจายหลายจังหวัด แต่ยังไม่ชัดเจนว่าอยู่ในระดับใดบ้าง พร้อมกันนี้ ได้เร่งขยายผลให้ถึงตัวผู้สั่งการโดยยืนยันว่าหากพบผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะระดับใดก็จะดำเนินคดีทุกราย
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่าในส่วนการประสานทางประเทศมาเลเซีย และตำรวจสากล ในส่วนของเส้นทางการหลบหนี เบื้องต้น ยังคงเป็นการดำเนินการภายในราชอาณาจักรเท่านั้น ส่วน ซิมโทรศัพท์ที่พบต้นทางมาจากประเทศมาเลเซีย ตามปกติแล้ว ทุกคนสามารถหาซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ เข้ามาใช้ในประเทศได้
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุอีกว่า ในวันนี้จะเดินทางลงพื้นที่เทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อลงไปตรวจสอบสำนวนคดีและติดตามความคืบหน้าคดี หากพบว่า หลักฐานเชื่อมโยงถึงใครก็จะรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับทันที พร้อมยืนยันว่า หลังจากนี้ จะเดินทางเข้าตรวจสอบสำนวนทุกคดีและยื่นคำร้องขอหมายจับด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า ขณะนี้ศาลมณฑลทหารบกที่ 41 จังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับเพิ่มเติมเพียง 1 รายเท่านั้น ส่วน นายศักรินทร์ หรือเชษฐ์ คฤหัส ที่ถูกศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชออกหมายจับ ก่อนหน้านี้ ยังอยู่ในการควบคุมของทหารตามมาตรา 44 และยังไม่มีการส่งตัวให้ตำรวจ ส่วนจะส่งตัวมาให้ตำรวจเมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับทางกองทัพพิจารณา
ทั้งนี้มีรายงานว่า สำหรับผู้ที่ถูกศาลมณฑลทหารบกที่ 41 จังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับคือนาย คือนายนายอะหะมะ เลงหะ ชาวอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส
