แม่สาวโดนต้นไม้ล้มทับ จี้ตร.แจ้งข้อหาเจ้าของต้นไทรยักษ์ ผ่านมา6เดือนยังเงียบ

จากกรณีต้นไทรยักษ์อายุกว่า 50 ปี หน้าอาคารอัลม่า ลิงค์ ถนนชิดลม แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน โค่นพิงเสาไฟฟ้าที่อยู่หน้าอาคาร เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าถูกฉุดล้มลงมาทับ น.ส.ณัชชาพัชร์ สมเจษ อายุ 25 ปี ขณะคร่อมรถจักรยานยนต์รอสัญญาณไฟบริเวณแยกชิดลมเสียชีวิตทันที และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน โดยเจ้าของต้นไม้รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด เยียวยาให้ผู้เสียชีวิต 150,000 บาท ผู้ได้รับบาดเจ็บรายละ 30,000 บาท และชดเชยความเสียหายแก่ยานพาหนะหรือทรัพย์สิน ส่วน กฟน.เจ้าของเสาไฟฟ้าเยียวยาให้ผู้เสียชีวิต 20,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ สน.ลุมพินี นางณัฐพิมล สมเจษ มารดาของ น.ส.ณัชชาพัชร์ พร้อมนายวิเชียร ชุบไธสง ทนายความ เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ ร.ต.อ.นพพา ทองบ่อ และ ร.ต.อ.ภาสกร กันจู รอง สว.(สอบสวน)สน.ลุมพินี เพื่อให้เร่งรัดสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องที่เป็นเจ้าของต้นไม้ดังกล่าว และอยากให้ดำเนินคดีเพื่อเป็นบรรทัดฐานให้ผู้เสียหายรายอื่นๆ หากมีคดีเช่นนี้เกิดขึ้นอีก

นางณัฐพิมลกล่าวทั้งน้ำตาว่า มาร้องขอความเป็นธรรมให้กับบุตรสาวที่เสียชีวิตไปกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 6 เดือน แต่เมื่อสอบถามกับพนักงานสอบสวนทราบว่า สอบปากคำพยานแวดล้อมไปหลายปาก แต่ไม่มีการสอบปากคำเจ้าของอาคาร วันนี้จึงเดินทางมากับทนายความพร้อมแจ้งสื่อมวลชน อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดมากกว่านี้ หากตนไม่สู้ เรื่องจะเงียบหายไป อยากให้สังคมไทยมีคดีที่เป็นบรรทัดฐาน ไม่ใช่ว่าเสียชีวิตไปแล้วก็เสียไป หนึ่งชีวิตที่สูญเสียมันมีความหมายกับครอบครัวอย่างมาก ถึงเอาเงินมากองให้ บุตรสาวก็ไม่ฟื้นมาอยู่ดี จำนวนเงินไม่มีค่าอะไรกับตน แต่ที่ต้องการคือความเอาใจใส่ความถูกต้องให้เป็นไปตามกฎหมายและเร่งรัดให้โดยเร็ว

ด้านนายวิเชียรกล่าวว่า คดีนี้ผ่านมากว่า 5 เดือน แต่ไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องโดยตรงได้เพียง 1 คน คือพนักงานดูแลต้นไม้ ก่อนแจ้งข้อหา ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตเพียงคนเดียว แต่เจ้าของต้นไม้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกไปแล้ว แต่ได้รับการติดต่อมาว่าติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ ไม่สามารถเข้ามาให้ปากคำได้ ทางเราหวังว่าเมื่อมายื่นหนังสือขอให้เร่งรัดที่จะมีคำสั่งทางคดีเพื่อฟ้องผู้ต้องหาเพิ่มและบุคคลที่เกี่ยวข้อง น่าจะทำให้คดีนี้เสร็จสิ้นเร็วขึ้น เนื่องจากในทางคดีไม่มีความซับซ้อน หลักฐานที่ชัดเจนคือต้นไม้เป็นของใครอยู่แล้ว เราต้องการให้เป็นบรรทัดฐานทางสังคม ต้องการให้มีการดำเนินคดีอาญาแบบรวดเร็วและจริงจัง

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image