เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.แมน แม่นแย้ม รอง ผกก.4 บก.ป.นำกำลัง ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) จับกุมพระครูกิตติพัชรคุณ หรือนายสมเกียรติ ขันทอง อายุ 53 ปี เจ้าอาวาสวัดลาดแค ต.ลาดแค อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และเจ้าคณะอำเภอชนแดน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหากระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม จับกุมได้ที่วัดดังกล่าว ภายหลังมีพฤติกรรมในเชิงชู้สาวกับ ส.ต.หญิง รายหนึ่ง ประจำอยู่ค่ายทหารใน จ.พิษณุโลก ซึ่งได้ส่งเสียเลี้ยงดูฝ่ายหญิงมาตั้งแต่ชั้น ม.2 เมื่อสำเร็จการศึกษาก็ฝากเข้ารับราชการทหาร ว่า ภายหลังสอบปากคำเสร็จสิ้น โดยทางพระครูกิตติพัชรคุณ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป.ได้ควบคุมตัวพระครูรูปนี้ ไปขออำนาจศาลอาญา ผัดฟ้องฝากขัง อย่างไรก็ดี ทางพระครู ยังไม่ยินยอมที่จะเข้าพิธีลาสิกขา ทางพนักงานสอบสวนจึงเตรียมขอให้ศาลได้พิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป.มอบหมายให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป.นำพยานหลักฐานต่างๆ ไปขออำนาจศาลอาญา เพื่อออกหมายจับพระครูรูปดังกล่าว ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน หลังจากพบว่ามีส่วนพัวพันกับคดีการทุจริตเงินทอนวัด จากนั้นก็จะขออายัดตัวไว้สอบสวนดำเนินคดีทันที
พ.ต.ท.แมน เม้นแย้ม รองผกก.กก.4 บก.ป. เปิดเผยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่กองปราบจะต้องทำการรวบรวมพยานหลักฐานในการสู้คดีในชั้นศาล โดยได้มีการสอบปากคำไปแล้วกว่า 20 ราย มีทั้งชาวบ้านในระแวกดังกล่าวและผู้เสียหายที่ถูกกระทำ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานบุคคลในการต่อสู้คดีจำนวนหลายราย และยังมีพยานหลักฐานที่บ่งบอกถึงพฤติกรรมของพระครูกิตติพัชรคุณ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะจะกระทบต่อรูปคดี
ต่อมา ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา พ.ต.ต.สุรสิทธิ์ โชว์สูงเนิน พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ควบคุมตัว พระครูกิตติพัชรคุ ผู้ต้องหาคดีกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ขณะนี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องสอบพยานอีก 6 ปาก จึงขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน- 11 ธันวาคม 2560 ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
คำร้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อประมาณเดือนเมษายน 2548 และปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ตัว พระครูกิตติพัชรคุณ หรือนายสมเกียรติผู้ต้องหาได้ชักชวนให้ น.ส.นิด (นามสมมุติ) ให้ไปนอนในห้องนอนของผู้ต้องหาที่กุฎิ แล้วได้กระทำอนาจาร ซึ่งขณะนั้นน.ส.นิด (นามสมมุติ) มีอายุไม่เกิน 15 ปี
ต่อมาเมื่อต้นเดือนเมษายน 2549 ขณะที่น.ส.นิด (นามสมมุติ) อยู่ภายในห้องพักในรีสอร์ท บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาได้กระทำต่อเนื้อตัวร่างกาย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวและข่มขู่ไม่ให้บอกให้ผู้ใดทราบ
จากการสืบทราบว่า ผู้ต้องหาบวชเป็นพระโดยเป็นเจ้าอาวาสวัดลาดแค อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ต่อมาพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลอาญา และศาลได้ออกหมายจับเลขที่ จ.2596/2560 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ในความผิดฐานกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 ต่อมาวันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 เวลา 15.00 น.ตำรวจกองปราบปรามได้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาดังกล่าว
ทั้งนี้ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและเกรงว่าจะหลบหนีเพราะผู้ต้องหายังถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหาสมคบและร่วมกันฟอกเงินอีกคดีหนึ่ง ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ขณะที่ญาติได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์จำนวน 1.5 แสนบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลว่าจะอนุญาตให้ประกันหรือไม่
ต่อมา ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้พระครูกิตติพัชรคุณ ประกันตัวไป โดยตีราคาประกัน 2 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
อย่างไรก็ตามหลังจากศาลปล่อยตัวพระครูกิตติพัชรคุณแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป.ได้แจ้งข้อหา และอายัดตัวพระครูกิตติพัชรคุณ ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน เงินทอนวัด โดยนำตัวไปควบคุมไว้ และจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ในวันที่ 1 ธันวาคม เวลา 09.00 น.
