เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ร.ต.อ.รณชัย จันทร์สูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) สน.ภาษีเจริญ รับแจ้งยิงกันมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดภายในบริษัท เซ็นเตอร์ รับเบอร์ จำกัด เลขที่ 670 ซอยเพชรเกษม 48 แยก 4-7 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ญาณพงศ์ โสมาภา รอง ผบก.น.9 พ.ต.ท.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ รอง ผกก.ป.สน.ภาษีเจริญ พ.ต.ท.คงศักดิ์ ปานน้อย รอง ผกก.สส.สน.ภาษีเจริญ แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นโกดังชั้นเดียว แบ่งพื้นที่ไว้ใช้สำหรับเป็นที่พักคนงาน และส่วนการผลิตท่อยาง ข้อต่อ และอุปกรณ์เกี่ยวกับเครื่องใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม บริเวณที่โต๊ะฝ่ายตัดแต่งสินค้า พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายและหญิงนอนทับกันจมกองเลือดอยู่ที่พื้น ทราบชื่อนางสุมาลี หรือตู่ อัคฮวด อายุ 39 ปี ชาว จ.นครพนม พนักงานฝ่ายตัดแต่งสินค้า ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 เข้าที่ท้ายทอยด้านหลังทะลุลำคอด้านหน้า 1 นัด ส่วนศพที่สองทราบชื่อนายบุญสม หรือสม แฟสันเทียะ อายุ 42 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ช่างกลึงของโรงงานดังกล่าวและเป็นผู้ก่อเหตุ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ขมับขวาฝังใน 1 นัด ที่มือข้างขวากำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 เอาไว้แน่น เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนางนวลจันทร์ พองนาที อายุ 25 ปี พนักงานฝ่ายตัดแต่งสินค้าเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ผู้ตายทั้งสองคนเป็นพนักงานอาวุโสทำงานที่โรงงานแห่งนี้มากว่า 10 ปีแล้ว โดยฝ่ายชายมีครอบครัวและมีลูกต้องดูแล 1 คน ส่วนฝ่ายหญิงเป็นแม่ม่ายลูกติด 3 คน ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 08.00 น. ตนและพนักงานคนอื่นๆ ทยอยตอกบัตรไปทำงานตามหน้าที่ จู่ๆ นายบุญสม ช่างกลึง ก็เดินเข้ามาที่โต๊ะฝ่ายตัดแต่งสินค้า และชักอาวุธปืนยิงใส่นางสุมาลีต่อหน้าต่อตาเพื่อนคนงานประมาณ 5 คน เมื่อนางสุมาลีล้มลง นายบุญสมก็คัดปลอกกระสุนเก่าออกเพื่อบรรจุลูกกระสุนใหม่ ก่อนลั่นไกใส่ขมับตัวเอง ร่างล้มทับในลักษณะกอดกับนางสุมาลี สิ้นใจตายไปพร้อมๆ กัน สำหรับสาเหตุนั้นตนไม่ทราบเพราะทั้งคู่ไม่เคยมีปากเสียงให้เห็นมาก่อน
ด้าน พ.ต.อ.ญาณพงศ์กล่าวว่า จากการสอบสวนเจ้าของโรงงานยืนยันผู้ตายทั้งคู่เป็นพนักงานของบริษัทเดียวกันแต่อยู่คนละฝ่าย ส่วนสาเหตุคาดเป็นเรื่องชู้สาวเนื่องจากเพื่อนๆ คนงานรุ่นเก่าๆ จะทราบว่าทั้งสองคนมีความสนิทสนมกันมาก แต่ระยะหลังฝ่ายหญิงกำลังจะขอตีตัวออกห่าง จึงทำให้เกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมอบศพผู้ตายทั้งสองรายให้นิติเวช รพ.ศิริราช ผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
