เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) กล่าวถึงการพิจารณาว่าจะดำเนินคดีกับพล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี หรือไม่ กรณีเข้าไปเกี่ยวข้องในการทำคดีพิพาทกรรมสิทธิลอตเตอรรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ว่าหากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จริง พนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามกฎหมาย ตามขั้นตอนจะต้องร้องทุกข์ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ก่อนทำสำนวนส่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ส่วนตำรวจอีก 4 นายที่กันไว้เป็นพยาน จะนำไปรวมกับพยานหลักฐานอื่นๆยืนยัน ไม่มีการช่วยเหลือตำรวจด้วยกัน หากพบหลักฐานการกระทำผิด ก็จะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น
ผบช.ก.กล่าวต่อว่า กรณีตำรวจชั้นผู้ใหญ่มีคำสั่งให้ตำรวจผู้น้อยกระทำผิดเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่จะต้องแก้ไขเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง ขณะที่กลุ่มที่สร้างความวุ่นวายในคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล 30 ล้านบาท จะต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว2คน กลุ่มตำรวจที่เกี่ยวข้องกับสถานที่เกิดเหตุ และกลุ่มกองเชียร์ของคู่ความทั้ง2ฝั่ง หากพบพฤติกรรมที่มุ่งร้ายให้ผู้อื่นเดือดร้อน จะมีการพิจารณาความผิดอีกครั้ง
ผบช.ก.กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ บช.ก. ประชุมตำรวจทั่วประเทศในพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาทเรื่องลอตเตอรี่ เพื่อวางกรอบการทำงานในคดีเกี่ยวกับสลากกินแบ่งรัฐบาลให้มีความชัดเจน โดยจะถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้เกี่ยวกับคดี รวมถึงปรับทัศนคติในการทำงาน เนื่องจากยอมรับว่าที่ผ่านมาตำรวจหลายพื้นที่มีประสบการณ์ในคดีลักษณะนี้น้อย จึงต้องนำองค์ความรู้ทั้งหมดมาแลกเปลี่ยนกัน
