สงกรานต์ห้ามรถบรรทุกวิ่ง 3เส้นทางสายอีสาน เว้นทุกน้ำมัน-พืชผลการเกษตร-อาหารทะเล

เมื่อเวลา 12.10น. วันที่ 4 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ มอบหมายให้ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ปส.2 ในฐานะ รองโฆษก ตร. และ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผบก.ส.3 ในฐานะคณะทำงานแก้ไขปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงเรื่องมาตรการจัดการจราจรและอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2561

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า การดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาล ช่วง7วันอันตราย ระหว่างวันที่11-17 เมษายน จะใช้คำสั่งเจ้าพนักงานการจราจร ห้ามเดินรถบางประเภทวิ่งบางเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น จำนวน 3เส้นทาง ได้แก่ ถนนมิตรภาพ ถนนสาย304 กบินทร์บุรี มุ่งหน้าปักธงชัย จ.นครราชสีมา , และถนนสาย348 เส้นทางอรัญประเทศ จ.สระแก้ว มุ่งหน้าจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่การจราจรหนาแน่นมากที่สุด ผิวการจราจรแคบ และอยู่ระหว่างซ่อมสร้าง

ด้านพล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวว่า จากการประเมินของคณะทำงาน คาดว่าจะมีรถวิ่งกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ประมาณ10ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเทศกาลปีใหม่ประมาณร้อยละ 7 ปัญหาหลักเกิดจากถนนลำตะคอง ถนนมอเตอร์เวย์ มีการก่อสร้าง และคืนผิวทางได้แค่2 ช่องทางจราจร มีการสร้างอุโมงค์ลอด ยังไม่สามารถคืนเส้นทางได้หมด อีกเส้นทางคือถนนสาย348 เป็นถนนที่ค่อนข้างเล็ก แต่เป็นเส้นทางที่พี่น้องประชาชนใช้เดินทางกลับทางอีสานใต้ คณะทำงานพิจารณาว่าจะทำอย่างไรถึงจะช่วยให้การเดินทางกลับภูมิลำเนาได้รวดเร็วที่สุด

“จึงมีคำสั่งห้ามรถยนต์บรรทุก10 ล้อขึ้นไป ห้ามวิ่งในเส้นทาง3 สายดังกล่าว ยกเว้นรถบรรทุกประเภท บรรทุกน้ำมัน บรรทุกพืชผักผลไม้ บรรทุกอาหารทะเล สามารถวิ่งได้เป็นกรณีพิเศษ โดยมอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว นครราชสีมา บุรีรัมย์ เป็นผู้พิจารณาเป็นรายๆ ไป ผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นจะต้องขับรถบรรทุกเกิน 10 ล้อในช่วงเวลาดังกล่าว ให้นำสำเนาทะเบียนรถ ไปยื่นคำร้องแสดงความจำนงค์ได้ที่สถานีตำรวจภูธรใน 5 จังหวัดข้างต้น” พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าว

พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวอีกว่า จากการคำนวณ คาดว่าหากใช้มาตรการอย่างเข้มงวด จะสามารถลดจำนวนรถ 10 ล้อ ได้ถึง 2,500 คัน จากเดิมที่มี 5,000 คันต่อวัน โดยมาตรการดังกล่าว สืบเนื่องจากผู้บังคับบัญชา ต้องการให้ลดระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปนครราชสีมา ให้ได้ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ส่วนกรณีนั่งท้ายรถกระบะกลับภูมิลำเนา มอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานจราจร หากมีคนนั่งจำนวนไม่มาก และระยะทางไม่ไกล ตำรวจจะตักเตือน ให้คำแนะนำ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย แต่ถ้ามีการบรรทุกจำนวนคนมาก และมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ตำรวจจำเป็นต้องใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เช่น ห้ามหย่อนขา ห้ามเปิดท้ายกระบะ ห้ามนั่งบนกระบะ เป็นต้น ส่วนการเล่นน้ำสงกรานต์ ห้ามรถบรรทุกน้ำเล่นบนถนน จะมีพิ้นที่ให้เล่นน้ำเฉพาะที่ทางจังหวัดกำหนดให้เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีมาตรการเข้มข้นเกี่ยวกับการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด นอกจากจะตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วยังต้องตรวจค้นยาเสพติดอย่างเข้มข้นด้วย

Advertisement

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย อยู่ระหว่างแก้ไขกฎกระทรวง เรื่องมาตรฐานความเร็วที่ควรปรับปรุงแก้ไขฉบับที่6 ในเรื่องกำหนดความเร็ว โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการเมื่อวานนี้ให้ปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาความจำเป็นในการปรับอัตราความเร็วของพาหนะให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมเป็นกรณี ส่วนหนึ่งเพื่อลดปัญหาการถูกจับกุม เพื่อลดปัญหาการจราจร หลักการคือให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางได้เร็วขึ้นและปลอดภัย เช่นถนนทางหลวงระหว่างเมือง ควรจะสามารถใช้ความเร็วได้มากกว่าทางปกติ ถ้าอิงตามฐานของสหรัฐอเมริกาสามารถวิ่งได้ถึง 105-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากปัจจุบันกฎหมายปี 2524 ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 80-90 กม./ชม. ทั้งนี้แต่ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งว่าถนนแต่ละสาย ถนนแต่ละประเภทควรใช้ความเร็วได้เท่าใด ทางด่วน โทลเวย์ สายหลัก สายรอง กำหนดความเร็วต่างกัน ขณะนี้คณะทำงานอยู่ระหว่างทำโครงร่าง และนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังสงกรานต์ เพื่อแก้ไขกฎกระทรวงใหม่ และระหว่างนี้เปิดรับความคิดเห็นจากประชาชนผ่านทุกช่องทางสื่อสารของตำรวจ” พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image