‘อรินทราช-สยบไพรี’ปิดล้อม 126 จุดทั่วประเทศ กวาดล้างอาชญากรรม จับแก๊งญวนกรีดกระเป๋า-66ผตห.

เมื่อเวลา01.30น. วันที่19 เมษายน ที่ซอยคาวบอย ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.ท.สิทธิ์ศักดิ์ นาคามาตย์ รองผกก.สส.สน.ทองหล่อ เจ้าหน้าที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 หน่วยอรินทราช26 หน่วยรบพิเศษสยบไพรี จากบช.ปส. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทองหล่อ ร่วมกันแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายบุคคลต่างด้าวที่อยู่ภายในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จำนวน126 เป้าหมายทั่วประเทศ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด66 ราย แบ่งเป็นข้อหา”เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยสิ้นสุดการอนุญาต” จำนวน11ราย และข้อหา”เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จำนวน51ราย และจับกุมข้อหาอื่นๆอีก4 ราย นอกจากนี้ยังมีการจับกุมMrs.Tran Thi Thu Ha อายุ45ปี สัญชาติเวียดนาม ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุกรีดกระเป๋าชาวต่างชาติ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 13เครื่อง กระเป๋าสตางค์1ใบ มีดคัตเตอร์1 เล่ม ใบมีดโกน8 ใบ ธนบัตรสกุลเงินต่างๆจำนวน19 ฉบับ รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ500,000 บาท โดยสามารถจับกุมได้ที่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งย่านประชาสงเคราะห์ แขวงและเขตดินแดง กทม.

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าการจับกุมผู้ต้องหาชาวเวียดนามที่ก่อเหตุกรีดกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้นสืบเนื่องจากเมื่อวันที่16 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมแก๊งกรีดกระเป๋าชาวต่างชาติได้จำนวน3 ราย ได้ที่ถนนข้าวสารพร้อมของกลางโทรศัพท์และทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการ จากนั้นจึงทำการขยายผลผู้ร่วมขบวนการที่เหลืออีก1 คนจนสามารถจับกุมได้ดังกล่าว

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่าจากการสอบถามผู้ต้องหาทราบว่ามีหน้าที่คอยดูแลทรัพย์สินที่สามารถกรีดกระเป๋ามาได้ก่อนจะนำไปขายตามร้านจำนำของที่ต่างๆ ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งที่เหลือได้แยกย้ายกันหนีกลับประเทศหมดแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา”เป็นคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ลักทรัพย์หรือรับของโจร นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ชนะสงครามดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป “หากใครสงสัยว่าถูกคนร้ายกลุ่มดังกล่าวก่อเหตุสามารถมาติดต่อได้ที่สน.ชนะสงครามเพื่อมาชี้ตัวผู้ต้องหาและรับทรัพย์สินคืนได้ตลอด24ชม.”รอง ผบช.ทท.กล่าว

ทั้งนี้การปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้เป็นการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงท้ายเทศกาลสงกรานต์ ที่จะต้องมีการตรวจสอบบุคคลต่างด้าว และขชาวผิวสี ที่อาจจะเข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปิดล้อมตรวจค้นบุคคลต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จากยุทธการทั้งหมด23ครั้ง ตรวจค้นเป้าหมายไป3,126เป้าหมาย จับผู้กระทำความผิดได้ 868ราย ซึ่งการดำเนินการอย่างต่อเนื่องจะเห็นได้ว่าผู้ที่กระทำผิดชาวผิวสีลดน้อยลง ในครั้งนี้ไม่มีผู้กระทำความผิดเป็นชาวผิวสีเลย สถานการณ์ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ ค้าประเวณีหรืออื่นๆลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก็จะถูกเนรเทศกลับประเทศต้นทางและขึ้นบัญชีดำ เพื่อไม่ให้กลับมาทำความผิดในประเทศไทยอีก

Advertisement

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image