ขึ้นภาษีผ้าอนามัย ติดอันดับข่าวลือยอดฮิต เชื่อยุบพรรคอนาคตใหม่เรื่องจริง

ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่ร้อนแรงในช่วงนี้ เริ่มมีการปล่อยข่าวลือ ข่าวปลอม หรือที่เรียกว่า เฟคนิวส์ กันบ่อยขึ้น โดยมีข้อความส่งต่อกันในกลุ่มแชทและโซเชียลมีเดียถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้าง ขณะที่กระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ออกมาเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่ออย่างเด็ดขาด

เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของ ประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,082 คน ระหว่างวันที่ 17-21 ธันวาคม ผลปรากฎว่า

ข่าวลือเรื่องล่าสุดที่ประชาชนได้ยินนั้น อันดับ 1 ได้แก่ ข่าวการขึ้นภาษีผ้าอนามัย คิดเป็น 63.34 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือข่าวยุบพรรคอนาคตใหม่ คิดเป็น 29.25 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 3 ข่าวขึ้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คิดเป็น 24.34 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 4 ข่าวม็อบขับไล่รัฐบาล คิดเป็น 17.74 เปอร์เซ็นต์ และอันดับ 5 ข่าวปรับครม. ยุบสภา คิดเป็น 14.72 เปอร์เซ็นต์

ทว่าข่าวที่ประชาชนคิดว่ามีมูลความจริงมากที่สุดคือ ข่าวการยุบพรรคอนาคตใหม่ คิดเป็น 38.40 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือข่าวการขึ้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คิดเป็น 26.80 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 3 ข่าวการย้ายพรรค ปรับเปลี่ยนครม. คิดเป็น 18.79 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 4 ข่าวการขึ้นภาษีผ้าอนามัย คิดเป็น 16.18 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 5 ข่าวการออกมาประท้วงของประชาชน คิดเป็น 12.58 เปอร์เซ็นต์

Advertisement

ส่วนวิธีการสยบข่าวลือนั้น แบ่งออกเป็น 2 หัวข้อ ในส่วนของสิ่งที่ประชาชนควรทำก็คือ มีสติ มีวิจารณญาณ ไม่หลงเชื่อง่าย คิดเป็น 56.21 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 2 คือตรวจสอบข่าว หาข้อมูลจากหลายๆ ที่ คิดเป็น 28.97 เปอร์เซ็นต์ และอันดับ 3 หยุดแชร์ หรือส่งต่อข้อมูลที่ไม่เป็นจริง คิดเป็น 21.56 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่สิ่งที่รัฐบาลควรทำ คือ จัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ คิดเป็น 42.09 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือมีการตรวจสอบข่าวที่ถูกต้อง แม่นยำ และรีบออกมาชี้แจงทันที คิดเป็น 38.90 เปอร์เซ็นต์ และอันดับ 3 คือ ติดตามจับกุมผู้ปล่อยข่าว มีบทลงโทษอย่างจริงจัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image