เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นำคณะผู้บริหาร กทม. และผู้แทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ลงพื้นที่ตรวจแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โดยตรวจ 7 จุดสำคัญ ได้แก่ บริเวณคอนโดมิเนียมศุภาลัยปาร์ก เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รัชโยธิน หน้ากรมพัฒนาที่ดิน แยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) บริเวณตรงข้ามกองพลทหารราบที่ 11 บิ๊กซีซูเปอร์มาร์เก็ตสะพานใหม่ และตลาดยิ่งเจริญ
นายสกลธีกล่าวว่า เนื่องจากแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าสายดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน กทม.จึงประสานให้ รฟม.และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาโครงการแก้ไขปัญหาภายใน 15 วัน และได้ลงพื้นที่ติดตามผลตลอดแนวถนนพหลโยธิน ซึ่งพบว่ายังแก้ไขไม่เรียบร้อย เช่น ผิวจราจรไม่สม่ำเสมอ ให้เวลาแก้ไขอีก 10 วัน นอกจากนี้ให้นำรถ อุปกรณ์ก่อสร้าง และที่พักคนงานออกจากเกาะกลางถนน และเพิ่มช่องจราจรทั้งขาเข้า-ขาออก ฝั่งละ 1 ช่อง และเปิดทางระบายน้ำ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังผิวจราจรภายใน 14 วัน
“กทม.จะให้โอกาสผู้รับเหมาแก้ไขอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 หากยังไม่เรียบร้อย กทม.ไม่ให้โอกาสแล้ว และอาจต้องพิจารณาบทลงโทษทางกฎหมาย อาจจะถึงขั้นร้ายแรงที่สุด คือให้หยุดการก่อสร้าง” นายสกลธีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีล่าสุดมีหินร่วงบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์จากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า เนื่องจากเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะมีแนวทางป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำรอยอย่างไร นายสกลธีกล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงาน แต่จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ หากส่งผลกระทบรุนแรงและมีความเสี่ยงเป็นอันตรายต่อประชาชน ก็จำเป็นต้องสั่งให้ยุติการก่อสร้างชั่วคราว
ด้านนายสมพงษ์ เวียงแก้ว รองปลัด กทม.กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาท่อระบายที่ผู้รับเหมาตัดเพื่อก่อสร้าง และไม่เชื่อมกลับคืนดังเดิม ว่าล่าสุดผู้รับเหมาได้เข้าแก้ไขปัญหาแล้ว และ กทม.ได้กำชับให้ผู้รับเหมาลอกท่อทุก 1 เดือน
