กรมน้ำเข้าบรรเทาทุกข์ ชาวปากท่อ

กรมน้ำเข้าบรรเทาทุกข์ ชาวปากท่อ

พื้นที่ตำบลยางหักถือเป็นตำบลหนึ่งในอำเภอปากท่อที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขาที่มีความลาดชันสูงในช่วงฤดูฝนจะกลายเป็นพื้นที่รับน้ำฝน การบริหารจัดการน้ำส่วนเกินในช่วงฤดูฝนไปใช้ในช่วงฤดูแล้งซึ่งพื้นที่นี้จะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนที่สำคัญให้ประชาชนได้ใช้ เพื่อการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรในวงกว้าง

นายสุวัฒน์ เปี่ยมปัจจัย อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำพร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งในพื้นที่ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี โดยติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง ของอ่างเก็บน้ำไทยประจัน หมู่ที่ 5 (ชป) และติดตามการเติมน้ำแจกจ่ายน้ำ โดยรถบรรทุกน้ำของกรมทรัพยากรน้ำในพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านไทยประจัน และติดตามการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำในพื้นที่ตำบลยางหัก จำนวน 7 โครงการ และติดตามการดำเนินงานโครงการก่อสร้างฝายน้ำล้นลำห้วยแม่ประจัน แห่งที่ 1 บ้านท่ายาง หมู่ที่ 3 ที่สามารถสนับสนุนน้ำให้ประชาชนในพื้นที่ตลอดฤดูแล้ง

Advertisement

 

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างฝายน้ำล้นลำห้วยแม่ประจัน บ้านท่ายาง หมู่ที่ 3 โดยมีการขุดลอกล้ำห้วยพร้อมก่อสร้างฝายน้ำล้นทำให้มีพื้นที่ความจุกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้น 3,700 ลูกบาศก์เมตร ประชาชน 84 ครัวเรือนมีน้ำเพียงพอเพื่อการอุปโภคบริโภค พร้อมน้ำเพื่อการเกษตรที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ ลำห้วยพุกรูด บ้านยางคู่ หมู่ที่ 6 เป็นการขุดลอกลำห้วยให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้นถึง 1,700 ลูกบาศก์เมตร และเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำทำให้ประชาชน 20 ครัวเรือน มีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำในการเกษตรในพื้นที่ 55 ไร่ ทั้งนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 ดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ แล้วเสร็จ 5 แห่ง และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 1 แห่ง

Advertisement

 

นายสุวัฒน์ เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยที่ผ่านมามีค่าน้อยกว่าค่าปกติประมาณ 10% ส่งผลให้ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนใหญ่ ประกอบด้วยเขื่อนกระเสียว เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนสิรินธร เขื่อนทับเสลา ได้รับผลกระทบมีระดับกักเก็บน้ำต่ำกว่า 30 % นอกจากนี้พื้นที่เกษตรนอกเขตชลประทาน 119 ล้านไร่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำในหลายพื้นที่ หลายหน่วยงานระดมกำลังเข้าช่วยเหลือ ซึ่งในส่วนของกรมทรัพยากรน้ำมีการเตรียมการรับมือภัยแล้งตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยการสูบน้ำเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุนจำนวน 27.414 ล้านลูกบาศก์เมตร แจกจ่ายน้ำ 4,253,000 ลิตร แจกจ่ายน้ำดื่มสะอาด 417,550 ลิตร น้ำดื่มบรรจุขวด 19,696 ขวด ประชาชนที่ได้รับประโยชน์ด้านการอุปโภคบริโภค 333,604 ครัวเรือน พื้นที่เกษตรกรรม 84,950 ไร่ นอกจากนี้ปัจจุบันมีเครื่องมือพร้อมช่วยผู้ประสบภัยที่ประกอบด้วย รถบรรทุกจำนวน 63 คัน เครื่องสูบน้ำจำนวน 311 เครื่อง และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญเหตุวิกฤตน้ำในพื้นที่สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1-11 จำนวนกว่า 171 คน หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1 – 11 หรือ โทร 1310 กด 5

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image