ขรก.สธ.ลงชื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีตั้ง กก.สอบ ‘ผอ.รพศ.ขอนแก่น’

ขรก.สธ.ลงชื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีตั้ง กก.สอบ “ผอ.รพศ.ขอนแก่น”

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีคำสั่งย้าย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.) ขอนแก่น ไปปฏิบัติหน้าที่กองบริหารการสาธารณสุข สธ.เนื่องจากถูกตรวจสอบเรื่องรับเงินบริจาคบริษัทยาเข้ากองทุนพัฒนาโรงพยาบาล และมีพฤติกรรมขัดขวางการสอบสวนและข่มขู่พยาน และมีการแต่งตั้ง นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) พระปกเกล้า จ.จันทบุรี ไปรักษาราชการผู้อำนวยการ รพศ.ขอนแก่น แทน ขณะที่เกิดกระแสบุคลากรใน รพศ.ขอนแก่น คัดค้านคำสั่ง และมองว่าไม่เป็นธรรมกับ นพ.ชาญชัย นั้น

ล่าสุด มีผู้ใช้นามว่า “ข้าราชการปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข” จัดทำแคมเปญให้ร่วมลงชื่อผ่านเว็บไซต์ change.org เรียกร้องธรรมาภิบาลจาก ปลัด สธ. โดยระบุว่า

1.เงินที่ได้รับมาจากบริษัทยาเป็นเงินบริจาคเข้ากองทุนพัฒนาโรงพยาบาล ซึ่งในกองทุนนี้ก็รับเงินบริจาคของทุกๆ คน เช่น เงินบริจาคของโครงการก้าว, เงินบริจาคจากห้างร้าน หรือ บุคคลทั่วไป
2.การรับเงินเข้ากองทุนมีหลักฐานการรับเงินชัดเจนตรวจสอบได้ทุกครั้ง
3.การใช้จ่ายเงินในกองทุนจะใช้จ่ายผ่านคณะกรรมการกองทุน ไม่ใช่อำนาจ ผอ.คนเดียว และยังต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์กองทุน ได้แก่ เพื่อปรับปรุงสิ่งปลูกสร้าง, ซื้ออุปกรณ์การแพทย์ หรือ สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการศึกษาอบรมเพื่อประโยชน์ในการดูแลผู้ป่วย
4.ผู้อำนวยการจะรับทราบเงินในกองทุนโดยระบบการรายงานสถานการณ์บัญชี คือ รายรับรวม-รายจ่ายรวม-เงินคงเหลือ โดยไม่ได้เห็นรายละเอียดรายรับว่าใครเป็นผู้บริจาคบ้าง (ดังนั้น ผอ. จะไม่ทราบว่าเงินบริจาคเป็นของบริษัทไหน จำนวนเท่าไร)
5.ผู้อำนวยการและทีมบริหารโรงพยาบาลมีการสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษรและสั่งการในที่ประชุมหลายครั้งไม่ให้เจ้าหน้าที่รับเงินจากบริษัทยา (มีหลักฐานชัดเจน)
6.หลังมีการสั่งการไม่ให้รับเงินจากบริษัทยา ยอดเงินบริจาคในกองทุนก็ลดลงไปมาก ทำให้ผู้อำนวยการและผู้บริหารคิดว่าเจ้าหน้าที่ทุกระดับปฏิบัติตามข้อสั่งการ (ช่วงเวลานี้คือช่วงที่กล่าวหาว่าทุจริต)
7.ถ้าผู้อำนวยการจะมีความผิดวินัย ก็คงเป็นเรื่องของการไม่กำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในการรับเงินบริจาคจากบริษัทยา ซึ่งความรุนแรงของความผิดไม่ใช่การผิดวินัยขั้นร้ายแรง
8.สุดท้ายข้อกล่าวหาความผิดวินัยร้ายแรงเท่านั้น จึงจะสามารถย้ายผู้อำนวยการออกจากโรงพยาบาล และเอาผู้อื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทนได้

“หากผู้มีอำนาจต้องการอะไรก็ทำได้ตามใจ กล่าวหาผู้บริสุทธิ์อย่างไม่เป็นธรรม ต่อไปกระทรวงสาธารณสุขก็ไม่แตกต่างจากบ้านป่าเมืองเถื่อน แล้วข้าราชการอื่นๆ จะมีความมั่นใจในธรรมาภิบาลได้อย่างไร ขอเรียกร้องธรรมาภิบาลแก่กระทรวงสาธารณสุขขอให้การสอบกรณีของ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล เป็นไปอย่างบริสุทธิ์เป็นธรรม ไร้การตั้งธงและแทรกแซง” แคมเปญดังกล่าวระบุ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image