สปสช.-สบส.ย้ำ รพ.เอกชน รอบ 3 งดแจ้งค่าใช้จ่าย-ห้ามเก็บเงินผู้ป่วยโควิด

สปสช.-สบส.ย้ำ รพ.เอกชน รอบ 3 งดแจ้งค่าใช้จ่าย-ห้ามเก็บเงินผู้ป่วยโควิด

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นประธานประชุมผ่านระบบผ่านระบบออนไลน์โปรแกรม Zoom Meeting ร่วมกับตัวแทนโรงพยาบาล (รพ.) เอกชน ทั่วประเทศกว่า 300 แห่ง เพื่อชี้แจงแนวทางการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสำหรับกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 และกรณีการเบิกจ่ายยูเซ็ป (UCEP )โควิด-19 ตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่

นพ.จเด็จ กล่าวว่า การประชุมชี้แจงกับ รพ.เอกชนทั่วประเทศ ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่ง สปสช.จะมีประชุมดังกล่าวนี้เป็นระยะๆ เพื่ออัพเดทหลักเกณฑ์กติกาต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น สปสช.ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีกับ รพ.เอกชน ดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19มาโดยตลอด ถือเป็นกำลังหลักสำคัญในการเสริมภาครัฐเพื่อดูแลประชาชน โดยรัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาให้ และ รพ.เอกชน จะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายมาที่ สปสช. ตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขกำหนดค่าใช้จ่ายที่ได้มีการกำหนดร่วมกันไว้

“ในวันนี้ได้เน้นย้ำขอความร่วมมือไม่เก็บค่ารักษาพยาบาลจากประชาชน ซึ่ง รพ.เอกชน ยินดีและพร้อมสนับสนุนรัฐบาล” นพ.จเด็จ กล่าวและว่า ในช่วงที่ผ่านมา ที่มี รพ.เอกชน เรียกเก็บเงินจากประชาชน พบว่ามี 3-4 สาเหตุ ประกอบด้วย

Advertisement

1.สปสช.จ่ายเงินช้าทำให้ต้องเรียกเก็บเงินจากประชาชนไว้ก่อน แต่ขณะนี้ สปสช.ปรับรอบการจ่ายเงินให้เร็วขึ้นเป็นทุกๆ 15 วัน ดังนั้นไม่ควรมีการเก็บเงินจากผู้ป่วยด้วยเหตุผลนี้อีก

2.เบิกค่าใช้จ่ายแพงกว่าหรือเกินกว่าอัตราที่มีการตกลงกับ สปสช.ไว้ กรณีนี้ต้องขอให้เก็บตามอัตราที่กำหนด

3.เรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่ไม่มีในประกาศ ประเด็นนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จะพิจารณาขยายรายการจ่ายให้ และเมื่อขยายแล้ว สปสช.จะจ่ายเงินคืนให้ย้อนหลัง ดังนั้นจึงไม่มีเหตุต้องเก็บจากผู้ป่วย

Advertisement

และ 4.กติกาเบิกจ่ายมีการเปลี่ยนแปล แต่ทางโรงพยาบาลตามกติกาไม่ทราบ เช่น เกณฑ์คัดกรองกลุ่มเสี่ยงเปลี่ยนเป็นระยะๆ จากเดิมที่ต้องแสดงอาการ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นให้แพทย์พิจารณา บางโรงพยาบาลไม่ทราบ จึงไม่ตรวจเพราะกลัว สปสช.ไม่จ่ายเงิน

“นี่เป็น 4 สาเหตุที่มี รพ.เอกชน เรียกเก็บเงินจากผู้ป่วย แต่ตอนนี้แก้ปัญหาหมดแล้ว เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น” นพ.จเด็จ กล่าว

ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดี สบส. กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวขอบคุณ รพ.เอกชนที่ให้ความร่วมมือดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ว่า เป็นภาคส่วนที่สำคัญอย่างมาก ในส่วนของปัญหาร้องเรียนเรื่องถูกเก็บค่ารักษาพยาบาลนั้น ถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับการรักษา ซึ่งเมื่อ สบส.รับเรื่องจากประชาชน และ สปสช.ที่ส่งเรื่องมา หลายเรื่องเมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าเกิดจากความเข้าใจผิด

“หลักการของทั้ง สบส. และ สปสช. คือใช้กลไกการไกล่เกลี่ยและดูข้อเท็จจริงว่าประชาชนมีสิทธิได้รับการรักษาฟรีตามสิทธิหรือไม่ เมื่อไกล่เกลี่ยกันได้ก็คืนเงินให้ผู้ป่วย แต่ในกรณีที่ตกลงกันไม่ได้ก็ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” นพ.ธเรศ กล่าวและว่า ทั้งนี้ มีบางกรณีที่ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดว่ากำลังถูกเรียกเก็บเงินขณะที่กำลังรักษาโควิด-19 เนื่องจากตามระบบของ รพ.เอกชน บางแห่ง จะมีการแจ้งอัตราค่ารักษาพยาบาลให้ทราบเป็นระยะๆ ซึ่งตรงนี้ สบส.ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือให้งดแจ้งค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ป่วยที่มีสิทธิได้รับการรักษาฟรีไปก่อน

นพ.ธเรศ กล่าวว่า สบส.ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคฉุกเฉินตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ทำให้ รพ.เอกชน ทุกแห่งต้องดูแลผู้ป่วยเหมือนเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยประชาชนไม่เสียค่าใช้จ่าย และโรงพยาบาลเบิกค่ารักษากับ สปสช. ส่วนค่าใช้จ่ายที่ไม่อยู่ในรายการที่กำหนด สามารถแจ้งมาที่ สบส. เพื่อพิจารณาขยายเพิ่มเติมแล้วจะคืนเงินให้เมื่อผ่านการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว โดยขณะนี้สมาคม รพ.เอกชน ได้เสนอเพิ่มเติมรายการเข้ามา 6-7 รายการ นอกจากนั้น สบส.ได้ปรับประกาศเป็นระยะๆ โดยเพิ่มบางรายการเพื่อสนับสนุนการทำงานของเอกชนมากขึ้น

“รพ.เอกชน ให้ความร่วมมือในการรับมือกับโรคโควิด-19 เป็นอย่างดีมาตลอด ซึ่ง สบส.ก็พยายามดูแลเอกชนเพื่อสนับสนุนให้ท่านทำงานได้สะดวกขึ้น เช่น การรักษาพยาบาล ถ้าท่านดูแลผู้ป่วยแล้วติดเชื้อโควิด-19 ท่านจะได้รับการเยียวยาช่วยเหลือเบื้องต้นตามหลักเกณฑ์มาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชน ซึ่งท่านได้ทำหน้าที่แทนภาครัฐในการฉีดวัคซีนให้ประชาชน ท่านจะได้รับการดูแลปกป้องเช่นกัน ขณะนี้ สบส.กำลังดำเนินการในเรื่องนี้” นพ.ธเรศ กล่าว

ทั้งนี้ การประชุมชี้แจงกับ รพ.เอกชนในวันนี้ ครอบคลุม 4 ประเด็นคือ 1.เน้นย้ำประเด็นสำคัญ การขอรับค่าใช้จ่ายค่าตรวจคัดกรอง การตรวจทางห้องปฏิบัติ และบริการอื่นๆ กรณีโรคโควิด-19 2.ทำอย่างไรสถานพยาบาลจะพิสูจน์ตัวตนประชาชนผู้รับบริการผ่านระบบ Smart card โดยใช้บัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดได้อย่างสะดวก 3.ทำความรู้จักกับโปรแกรม e-Claim เพื่อบันทึกขอรับค่าใช้จ่ายการตรวจทางห้องปฏิบัติ และบริการอื่นๆ กรณีโรคโควิด-19 และ 4.ค่าใช้จ่ายในสถานบริการเอกชน (UCEP-COVID) สำหรับการดูแลกรณีโรคโควิด-19 โรงพยาบาลเอกชนส่วนใหญ่สอบถามเรื่องหลักเกณฑ์การเบิกค่ารักษา การบันทึกเพื่อขอรับค่าใช้จ่าย และมีข้อเสนอแนะให้ปรับประกาศบางข้อให้ชัดเจนเพื่อให้การปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยได้ง่ายขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image