ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผอ.สวทช. ผู้นำขุมพลังหลัก วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีคนใหม่

ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผอ.สวทช.

ผู้นำขุมพลังหลัก วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีคนใหม่

สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นขุมพลังหลักของประเทศในการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ของรัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมให้ตอบโจทย์สำคัญ นำสู่การพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด

โดยเมื่อเร็วๆ นี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งหัวขบวนแห่งขุมพลังหลักคนใหม่ ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) คนใหม่ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เสนอ

ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรี อว. กล่าวว่า ตามมติของคณะกรรมการ กวทช. โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 3 ปีนั้น วันนี้คณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (กวทช.) ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะ

Advertisement

ผู้บริหาร สวทช.ชุดใหม่ ซึ่งประกอบด้วยนักวิจัยรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงหลายคน และเห็นชอบกำหนดนโยบายเพื่อให้ สวทช.ดำเนินงานเป็นขุมพลังหลักของประเทศในการขับเคลื่อนประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของรัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อขับเคลื่อนประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ใช้ศักยภาพเสริมสร้างความเข้มแข็งภาคส่วนต่างๆ ให้เกิดการพัฒนาทั้งกระบวนการผลิต กำลังคน และการจ้างงาน ช่วยยกระดับพัฒนาเศรษฐกิจชาติให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

ศ.ดร.ชูกิจกล่าวว่า ขอขอบคุณ อว.และคณะกรรมการ กวทช. ที่ให้ความไว้วางใจในการเข้ารับตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการ สวทช.Ž ครั้งนี้

 

Advertisement

“ผมมีความพร้อมและมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะใช้กำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัยของ สวทช. ที่มีบุคลากรกว่า 3,000 คน โดยมากกว่า 70% เป็นนักวิจัย และเป็นนักวิจัยระดับปริญญาเอกมากกว่า 700 คน ถือว่ามากที่สุดในประเทศ อีกทั้งพร้อมผนึกกำลังความเชี่ยวชาญกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษาและภาคเอกชน เสมือนหนึ่งเป็นทีมประเทศไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมของประเทศให้ตอบโจทย์ที่สำคัญ นำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดดบนสังคมฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เข้มแข็งต่อไปŽ”

“ปัจจุบันวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มีบทบาทอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยจำเป็นต้องอาศัยกลไกการวิจัยและพัฒนาที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของภาคธุรกิจ ภาคบริการและภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล ขณะเดียวกันชุมชนต้องสามารถเข้าถึงงานวิจัยที่ใช้ได้จริง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่ม ก่อเกิดอาชีพ เพิ่มรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนได้อย่างยั่งยืนŽ” ศ.ดร.ชูกิจกล่าว

ศ.ดร.ชูกิจกล่าวว่า ด้วยประสบการณ์จากที่ตนเป็นนักเรียนทุนโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) ได้มีโอกาสศึกษาและทำวิจัยทั้งสถาบันวิจัยของรัฐและเอกชนในต่างประเทศ และต่อมาเป็นผู้บริหารด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในองค์กรสำคัญระดับประเทศ จึงพร้อมนำความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์ที่มีมารับใช้ประเทศ ทั้งรากฐานของการเป็นนักวิจัยและอาจารย์ในมหาวิทยาลัย โดยจะร่วมกับนักวิจัย สวทช. ขับเคลื่อนองค์กรอย่างเต็มกำลังความสามารถและเชื่อมโยงทุกเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม เพื่อให้เกิดระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมของประเทศที่เข้มแข็ง สามารถตอบโจทย์ประเทศให้มากยิ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด

“ผมจะทำงานและพร้อมทุ่มเทอย่างเต็มกำลังความสามารถร่วมไปกับทีม สวทช.Ž”

ถือเป็นพันธกิจ และคำสัญญาอันหนักแน่น สำหรับงานหนัก ที่จะนำพาขุมพลังหลักด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศให้มุ่งไปข้างหน้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image