เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน นายเสริมยศ สมมั่น รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ในฐานะ รักษาการปลัด ทส.ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 9(ซี9) ของกรมป่าไม้ จำนวน 6 คน ประกอบด้วยนายธิติ วิสารัตน์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยการจัดการป่าไม้ สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ เป็น ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้แทนนายสุชาติ กัลยาวงศา ที่ถูกย้ายไปเป็น ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้(สจป.) ที่ 10(ราชบุรี) นายสมชาย เปรมพาณิชย์นุกูล ผู้อำนวยการ สจป.ที่ 10(ราชบุรี) ไปเป็น ผู้อำนวยการ สจป.ที่ 1(เชียงใหม่) นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผู้อำนวยการ สจป.ที่ 1(เชียงใหม่) ไปเป็น ผู้อำนวยการสจป.ที่ 3(ลำปาง) นายไพศาล ธนะเพิ่มพูล ผู้อำนวยการ สจป.ที่ 12(นครศรีธรรมราช) ไปเป็น ผู้อำนวยการสจป.ที่ 9(ชลบุรี) นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง ไปเป็น ผู้อำนวยการ สจป.ที่ 13(สงขลา)
นอกจากนี้ มีคำสั่งย้ายข้าราชการระดับ 9 กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จำนวน 2 ตำแหน่ง เป็นการสลับตำแหน่งกัน คือ นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี ผู้อำนวยการ สำนักสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล ไปเป็น ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรน้ำบาดาล นายจิตรกร สุวรรณเลิศ ผู้อำนวยการ สำนักอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรน้ำบาดาล ไปเป็น ผู้อำนวยการสำนักสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล และกรมทรัพยากรธรณี 1 ตำแหน่ง คือนายมานพ รักษาสกุลวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยและพัฒนาธรณีวิทยา สำนักธรณีวิทยา ไปเป็น ผู้ตรวจราชการกรมทรัพยากรธรณี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการโยกย้ายครั้งนี้ ในส่วนของกรมป่าไม้ ก่อนหน้านี้ นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้ลงนามโยกย้ายข้าราชการระดับ 9 ทั้ง 6 คนไปรักษาการในตำแหน่งดังกล่าวแล้ว ก่อนที่นายเสริมยศ ในฐานะรักษาการปลัด ทส.จะลงนามในคำสั่งโยกย้ายซ้ำอีกครั้ง โดยการโยกย้ายครั้งนี้ นายชูเกียรติ ได้รับการจับตามองมากที่สุดในฐานะข้าราชการจากโรงเรียนป่าไม้แพร่ รุ่น 25 และถือเป็นคนใกล้ชิดนายชลธิศ ที่โยกย้ายสำนักฯ เชียงใหม่ มาสำนักฯ แพร่ ซึ่งถือเป็นสำนักใหญ่ เพื่อเข้าสู่เส้นทางการขึ้นเป็นรองอธิบดีกรมป่าไม้ ในอนาคตเหมือนกับก่อนหน้านี้ นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ รองอธิบดีกรมป่าไม้คนปัจจุบัน และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นป่าไม้แพร่ รุ่น 25 กับนายชูเกียรติ ก็มาจากตำแหน่ง ผู้อำนวยการสจป.ที่ 3(แพร่) เหมือนกัน ทั้งนี้ ทส.มีตำแหน่งผู้ตรวจราชการ ทส.ระดับ 10 ว่างอยู่ 6 ตำแหน่งก็จะรับสมัครจากรองอธิบดีกรมต่างๆ เมื่อตำแหน่งอธิบดีว่างๆ ลงก็สามารถขยับขึ้นได้เลย ขณะที่นายธวัชชัย ลัดกรูด ถูกย้ายถึง 3 ตำแหน่งในรอบ 1 ปี คือ จาก ผู้อำนวยการกองการอนุญาติ ไปเป็น ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลางและผู้อำนวยการสำนักฯ สงขลา ส่วนนายสุชาติ กัลยาวงศา ถูกย้ายจาก ผู้อำนวยการสำนักวิจัยฯ ไปเป็น ผู้อำนวยการสำนักฯ ราชบุรี แม้จะมีฐานะเดียวกัน แต่การถูกย้ายจากส่วนกลางไปอยู่ภูมิภาคและเป็นสำนักเล็ก ถือว่าถูกลดความสำคัญลงไปพอสมควร
