กรมควบคุมโรค นัดถก ผู้เชี่ยวชาญก่อนออกคำแนะนำ “เด็กเล็กไม่ต้องใส่แมสก์” หลังมีข้อมูล กระทบการพัฒนาการ-สุขภาพจิต เปิดตัวเลขวัคซีนโควิด-19 เด็กต่ำกว่า 4 ปี ไม่ขยับ
เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณที่ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แนะนำให้เด็กเล็กถอดหน้ากากอนามัยในโรงเรียนได้ เนื่องจากการสวมหน้ากากส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กในการเรียนรู้ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องมีข้อมูลวิชาการ เพื่อดูว่าหากสวมหน้ากากกับถอดหน้ากากอะไรจะมีผลดีมากกว่า เพราะมีทั้งด้านบวกและลบ ซึ่งปัจจุบันข้อมูลการติดเชื้อโควิด-19 ในเด็กเล็ก ไม่มากและความรุนแรงน้อย รวมถึงเด็กส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดของไฟเซอร์ที่ สธ. ได้รณรงค์ฉีดไปเมื่อช่วงเดือน ต.ค.2565 ซึ่งทาง นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าว อาทิ กองโรคติดต่อ กรมอนามัย ที่ดูแลอนามัยแม่และเด็ก กรมสุขภาพจิต เพราะการสวมหน้ากากอนามัย อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการด้านสุขภาพจิตเด็กด้วย ผู้เชี่ยวชาญ จากนั้น เราก็จะออกคำแนะนำไปยังประชาชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีผลทันทีไม่ต้องให้เด็กเปิดเทอม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มเด็ก แบ่งเป็น 3 กลุ่มวัย คือ อายุระหว่าง 12-17 ปี จำนวนเป้าหมาย 4.75 ล้านคน ฉีดเข็มที่ 1 ครอบคลุมร้อยละ 81.5 เข็มที่ 2 ครอบคลุมร้อยละ 81 เข็มที่ 3 ครอบคลุมร้อยละ 24.3 เข็มที่ 4 ครอบคลุมร้อยละ 0.7 ส่วนอายุ 5-11 ปี จำนวนเป้าหมาย 3.3 ล้านคน ฉีดเข็มที่ 1 ครอบคลุมร้อยละ 65.6 เข็มที่ 2 ครอบคลุมร้อยละ 50.3 เข็มที่ 3 ครอบคลุมร้อยละ 3.1 เข็มที่ 4 ครอบคลุมร้อยละ 0.1 และ อายุ 6 เดือน – 4 ปี จำนวนเป้าหมาย 2.2 ล้านคน ฉีดเข็มที่ 1 ครอบคลุมร้อยละ 2.8 เข็มที่ 2 ครอบคลุมร้อยละ 1.2
