รองฯ อนุทิน นำอาเซียน สร้างสนามการค้า ท่ามกลางรอยแยกสองมหาอำนาจ กลางเวทีดาวอส 2023

“อนุทิน” ชวนชาติสมาชิกร่วมลงทุน “แลนด์บริดจ์” ชูอาเซียนนำโลกเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า อย่างที่ไทยเคยทำในยุคอดีตนายกฯชาติชาย ท่ามกลางความขัดแย้งในหลายประเทศ และการแข่งขันด้านอิทธิพลของมหาอำนาจจีน-สหรัฐ

เมื่อวันที่ 19 มกราคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ได้กล่าวในช่วงหนึ่งระหว่างเข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum ประจำปี 2023 ภายใต้ธีม “ความร่วมมือในโลกที่แตกแยก” โดยหนึ่งในเวทีสำคัญคือการเสวนาในหัวข้อ “แรงดึงดูดของอาเซียน” เพื่อฉายศักยภาพของภูมิภาคในการเป็นศูนย์กลางการแข่งขันระหว่างสองขั้วมหาอำนาจ พร้อมทิศทางการพัฒนาทางเศรษฐกิจและความร่วมมือในหมู่ประเทศสมาชิกอาเซียน ว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องเห็นตรงกันว่า เราทั้งหมดเมื่ออยู่รวมกันจะมีพลัง ในแง่ภูมิศาสตร์ อาเซียนเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เชื่อมโลกทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน เมื่อ 30 ปีก่อน อดีตนายกไทยคือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ ได้เคยประกาศนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า เราน่าจะนำปรัชญานี้มาปรับใช้ในบริบทโลกปัจจุบันกันอีกครั้ง ส่วนในอาเซียนเราไม่มีสงครามในหมู่ชาติสมาชิก แต่เรามีการแข่งขันทางการค้า

“อาเซียนจะแข็งแกร่งมาก ถ้าประเทศสมาชิกเปลี่ยนการแข่งขันเป็นความร่วมมือที่เข้มแข็ง เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น อาเซียนจะยืนอย่างมั่นคงและกลายเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกเขตเศรษฐกิจในโลก” นายอนุทิน กล่าว

นอกจากนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ตัวอย่างการพัฒนาสำคัญที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะเสริมความแข็งแกร่งของศักยภาพอาเซียน คือ โครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งจะเป็นการเชื่อมมหาสมุทรฝั่งอันดามันและอ่าวไทยเข้าด้วยกัน ทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งสำคัญ โดยแลนด์บริดจ์จะสามารถช่วยประหยัดทั้งงบประมาณและเวลาที่ใช้ในการขนส่งสินค้าได้ถึง 4 วัน เมื่อเทียบกับการขนส่งโดยอ้อมทางทะเลตามปกติ และโครงการพัฒนาดังกล่าวจะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในบริเวณโดยรอบ จึงขอเชิญชวนประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ได้มาร่วมลงทุนเพื่อสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน

ในส่วนของการต่างประเทศ นายอนุทินย้ำว่า ความยืดหยุ่นและนโยบายการไม่แทรกแซงกิจการภายใน ทำให้อาเซียนสามารถรักษาสมดุลในความสัมพันธ์ระหว่างขั้วอำนาจต่างๆ ในโลกได้ พร้อมตอบคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามกลางเมืองในพม่าว่า ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือในทางที่เราทำได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบริจาคยาและวัคซีนอย่างเต็มที่

Advertisement

สำหรับความสัมพันธ์กับขั้วอำนาจอย่างจีนและสหรัฐอเมริกานั้น นายอนุทินได้ย้ำถึงแนวทางไม่สร้างความขัดแย้ง และการให้คุณค่ากับความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างไทยกับทั้งสองมหาอำนาจ โดยไทยยืนยันในจุดยืนที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดกับประชาชนไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image