กรวดน้ำคว่ำขันแช่ง ‘อนุทิน’ อย่ากลับมาเป็น รมต.อีก ปมมี กม.ทำแท้ง แต่ใช้ไม่ได้ ซ้ำตัดงบ

เครือข่ายท้องไม่พร้อม กรวดน้ำคว่ำขันแช่ง ‘อนุทิน’ อย่ากลับมาเป็น รมต.อีก หลัง 2 ปี มี กม.ให้ทำแท้ง แต่ปฏิบัติไม่ได้ ซ้ำตัดงบ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มทำทาง ร่วมกับเครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม ประมาณ 15 คน นำโดย นางสาวสุพีชา เบาทิพย์ ผู้ประสานงานกลุ่มทำทาง และ นางสาวสุไลพร ชลวิไล นักวิชาการกลุ่มทำทาง จัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับควงวิญญาณผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิตจากการเข้าไม่ถึงบริการทำแท้งปลอดภัยและพิธีกรวดน้ำคว่ำขัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ที่ตัดสิทธิผู้ใช้สิทธิประกันสังคม ไม่ให้ได้รับงบประมาณส่งเสริมป้องกันโรคของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่สนับสนุนค่าบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย 3,000 บาทสำหรับคนไทยทุกคน

นางสาวสุไลพร ชลวิไล นักวิชาการกลุ่มทำทาง
นางสาวสุไลพร ชลวิไล นักวิชาการกลุ่มทำทาง

โดย นางสาวสุพีชา เบาทิพย์ ผู้ประสานงานกลุ่มทำทาง กล่าวว่า มีผู้หญิงที่ต้องเสียชีวิตมากมาย ตามสถานที่ต่างๆ เช่น หอพัก รถประจำทาง ภายหลังใช้บริการยุติการตั้งครรภ์ไม่ปลอดภัย จึงอยากตั้งคำถามว่าทำไมผู้หญิงยังต้องมาเจ็บหรือตายจากการเข้าไม่ถึงบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย ทั้งที่เป็นเรื่องถูกกฎหมายแล้ว อย่างไรก็ตาม วันนี้กฎหมายอนุญาตให้ทำแท้งแล้ว แต่ใช้บริการไม่ได้ ทำให้ผู้หญิงยังไปทำแท้งเอง ซื้อยาเอง ต้องกังวลใจว่าไปใช้บริการแล้วจะถูกด่าไหม กลับกันทีกฎหมายกัญชา สธ.เดินเร็วมาก

ส่วน นางสาวสุไลพร ชลวิไล นักวิชาการกลุ่มทำทาง กล่าวว่า วันนี้ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ครบรอบ 2 ปีกฎหมายทำแท้งใหม่ประกาศวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 และมีผลบังคับใช้ 7 กุมภาพันธ์ 2564 แต่กฎหมายใช้มาแล้ว 2 ปี มาตรา 301 ระบุให้ผู้หญิงสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ หากอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ และมาตรา 305 ระบุว่าอายุครรภ์ 12-20 สัปดาห์ ทำแท้งได้ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด เป็น 2 ปีที่ควรจะเปลี่ยนแปลง แต่ปรากฎว่าปัญหายังเหมือนเดิม คือ สธ.ไม่แจ้งสถานบริการ ว่ามีโรงพยาบาลของรัฐที่ไหนทำบ้าง คนไม่รู้ว่าจะไปใช้บริการที่ไหน ตัวสถานบริการที่ให้บริการ 100 กว่าแห่งก็ไม่มีเพิ่ม โดยสรุปกฎหมายมีความก้าวหน้า แต่ทางปฏิบัติไม่เป็นอย่างนั้น

Advertisement

นางสาวสุไลพรกล่าวอีกว่า โดยเฉพาะนายอนุทินที่เพิ่งเซ็นตัดงบ สปสช. ให้เบิกจ่ายบริการยุติการตั้งครรภ์เฉพาะคนมีสิทธิ สปสช.เท่านั้น หากเป็นข้าราชการ ประกันสังคม จะเบิกไม่ได้อีกแล้ว จากแต่ก่อนไม่ว่าสิทธิไหนก็ไปใช้สิทธิได้ ทำให้เป็นปัญหาว่าแรงงานที่มีประกันสังคม จะกระทบแน่จากนี้ ขณะที่อัตราค่าบริการยุติตั้งครรภ์ในโรงพยาบาลเอกชน ประมาณ 5 พันบาท หากอายุครรภ์ต่ำกว่า 12 สัปดาห์ แต่หากมากกว่านั้นก็ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ

จากนั้น ตัวแทนกลุ่มทำทาง ได้อ่านหนังสือเปิดผนึกถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เรื่องขอให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัด ให้หน่วยงานภายใต้สังกัดปฏิบัติตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 28) พ.ศ.2564 เรียกร้อง 4 ข้อ ว่า 1.ขอให้ สธ.ประกาศรายชื่อสถานบริการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย และรายชื่อหน่วยงานให้การปรึกษาทางเลือกทั่วประเทศให้ประชาชนรับทราบ 2.กำหนดให้มีสถานบริการบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย อย่างน้อยจังหวัดละ 1 สถานบริการ 3.กรณีสถานบริการสาธารณสุขที่ไม่ให้บริการ มีหน้าที่ส่งต่อผู้รับบริการตามระบบ และ 4.สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุข เกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย

Advertisement

ก่อนยื่นหนังสือเปิดผนึกให้ผู้แทน สธ. โดยมีนางสาวนิสิตา รอบุญ รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักรัฐมนตรี สธ.รับเรื่อง โดยนางสาวนิสิตากล่าวระหว่างรับหนังสือว่า จะนำเรียน รมว.สธ.เพื่อมีข้อสั่งการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายของงานมีพิธีเครือข่ายฯได้ทำการคว่ำขันสาปแช่งนายอนุทิน ที่ตัดสินใจลิดรอนสิทธิและส่งผลกระทบคนหลายกลุ่ม ฉะนั้นขอสาปแช่งให้จบการเป็นนักการเมืองสมัยนี้ ไม่ได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีอีกในสมัยหน้า ต้องทุกข์ทรมานเหมือนพวกเราที่ได้รับผลกระทบจากนโยบาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

– ขบคิด 14 เดือน หลังมีกฎหมายทำแท้ง ผู้หญิงยังคงท้องต่อแบบไม่พร้อม

– ขบคิด ‘กฎหมายทำแท้ง’ เมื่อความจริง ไม่เป็นอย่างที่คิดไว้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image