อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ ยัน ‘โนวิด’ ก็ติด-เป็นซ้ำได้ เตือนกลุ่มไม่เคยฉีดวัคซีน เสี่ยงอาการรุนแรง
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็น ผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน หรือ โนวิด ว่าจริงๆ กลุ่มผู้ไม่เคยติดโควิด-19 มาก่อน หรือที่เรียกว่า “โนวิด” ก็อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากยีนที่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ดี หรืออาจเกิดขึ้นเพราะคนกลุ่มนี้ป้องกันตัวเองได้ดี ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตั้งคำถามว่าอาจจะเกิดขึ้นได้จากยีนที่ผิดปกติ แต่ต้องใช้เวลาศึกษาพอสมควรถึงจะตอบคำถามได้ เพราะการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัวมีราคาค่อนข้างสูง และต้องได้กลุ่มประชากรที่ไม่เคยติดโควิดจริงๆ จำนวนมาก ถึงจะได้ผลการศึกษาที่ชัดเจน
“ตอนนี้ยากที่จะบอกว่าไม่เคยติดโควิดมาก่อน ต้องหาอะไรมายืนยันด้วยการตรวจภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ละเอียด เพื่อสะท้อนว่าไม่เคยติดเชื้อ เพราะการตรวจภูมิฯบางอย่างก็เกิดได้จากการฉีดวัคซีนโควิด ดังนั้น การตรวจทั่วไปไม่ได้ และสมมุติว่าถ้าคนที่เป็นโนวิดจริงๆ ที่เกิดจากการป้องกันได้ดี แต่พอเมื่อไหร่ก็ตามที่การป้องกันหย่อนลงก็ติดเชื้อได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร คนที่ไม่เคยติดเดี๋ยวก็ติดได้” นพ.ศุภกิจกล่าว
เมื่อถามว่าเชื้อโควิด-19 ในปัจจุบันมีสัญญาณว่าจะติดได้ง่ายทำให้คนที่ไม่เคยติดสามารถติดได้หรือไม่ นพ.ศุภกิจกล่าวว่า ถ้าหากเกิดการติดเชื้อมาก็เกิดจากธรรมชาติของเชื้อโควิด ที่ต่อให้ไม่ได้แพร่เร็วขึ้น แต่ถ้าเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมมากขึ้น คนที่เคยติดก็สามารถติดเชื้อซ้ำได้ แม้กระทั่งคนที่ฉีดวัคซีนก็ไม่ได้กันได้ 100% แต่ไม่ใช่เพราะการระบาดใหม่แล้วทำให้คนติดเชื้อ หรือทำโอกาสให้ติดง่ายขึ้น เพียงแต่ถ้าแพร่เร็วขึ้น ก็หลบภูมิฯที่มีได้มากขึ้น
เมื่อถามว่าการระบาดรอบนี้อาจทำให้คนติดเชื้อมากขึ้น เพราะไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น นพ.ศุภกิจกล่าวว่า ก็เกิดขึ้นได้ เพราะแม้ว่าจะฉีดเข็มกระตุ้น แต่ฉีดมานานแล้วก็ติดซ้ำได้ เพราะภูมิฯจากวัคซีนก็ลดลงตามเวลา แต่ถ้าคนไม่ได้รับวัคซีนเลย ต่อให้ติดสายพันธุ์โอมิครอนก็อาการหนักได้ อย่างที่เห็นตัวเลขผู้เสียชีวิตปัจจุบัน เกินร้อยละ 40 คือไม่เคยได้รับวัคซีนมาเลย
“การฉีดวัคซีน ต่อให้ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลง หลบภูมิฯ ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าภูมิฯจำไม่ได้ 100% ภูมิฯก็ยังจำได้บ้าง ดังนั้น การกระตุ้นภูมิฯก็มีความจำเป็น แม้กระทั่งฉีดวัคซีนสองสายพันธุ์ หรือไบวาเลนท์ (Bivalent) ที่มีต้นเชื้อเป็นโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยแรกๆ ก็จำสายพันธุ์ย่อยหลังๆ ไม่ได้หมด แต่ก็สามารถกระตุ้นภูมิฯได้สูงกว่าวัคซีนตั้งต้นเล็กน้อย ซึ่งวัคซีนในไทยส่วนใหญ่ก็เป็นไบวาเลนท์หมดแล้ว” นพ.ศุภกิจกล่าว
