สอบข้อเท็จจริงสอบพนักงานพิทักษ์ป่า มีอึ้ง นั่งหน้าห้องแท้ๆ บอกไม่รู้จัก เสนอ คราวหน้าไม่ต้องสอบวิ่ง
กรณี มีลูกจ้าง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทำหนังสือร้องเรียนถึงความไม่เป็นธรรมกรณีการสอบคัดเลือกพนักงานพิทักษ์ป่า เพราะในปีนี้ทางกรมอุทยานแห่งชาติระบุว่า ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัติผ่านการเดินลาดตระเวนป่ามาไม่ต่ำกว่า 5 ปี แต่ปรากฏว่า ผู้ที่สอบได้ ไม่ได้ผ่านการลาดตระเวนป่า และกลับเป็นพนักงานออฟฟิศ และ ‘เด็กนาย’ ที่นั่งหน้าห้องนายจำนวนมาก นั้น โดยเรื่องนี้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ได้แต่งตั้งให้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ เป็นประธานสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- อุทยานฉาวอีกตั้งกก.สอบ สอบพนง.พิทักษ์ป่า หลังจม.ร้องขอความเป็นธรรม คนได้ไม่เคยเดินป่า เป็นเด็กนาย
- ระงับเงินเดือน-จัดสอบใหม่ จนท.พิทักษ์ป่า หัวหน้าอุทยานฯแฉเอง ‘ล็อกคะแนน’ เด็กเส้น
- อ้างไม่รู้ ใบสมัครพิทักษ์ป่าเพิ่ม ‘คุณสมบัติ ผ่านการลาดตระเวน’ ของเก่าไม่เคยมี
- เปิดใบสมัคร พนักงานพิทักษ์ป่า พบ ระบุชัดเจน ต้องผ่านการลาดตระเวนป่า 5 ปี
วันที่ 21 มิถุนายน นายชัยวัฒน์ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เดินทางมาสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม พื้นที่ของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 3 ตนตั้งประเด็นเอาไว้ 2 เรื่อง คือ 1.คนสอบได้ที่ไม่มีคุณสมบัติจริงๆ 2.คนที่ยังก้ำกึ่ง ไม่มีความชัดเจน
“โดยคนที่ไม่มีคุณสมบัติจริงๆ นั้น ไม่เคยผ่านการทำงานภาคสนาม ทั้งการลาดตระเวนป่า การกรอกข้อมูลรายละเอียด จากการลาดตระเวน คือ นั่งทำงานอยู่ในสำนักงาน ซึ่งกรณีแบบนี้ ตอนสอบสวนผมก็อึ้งไปเหมือนกัน คือ เพราะเมื่อไปสอบคนที่สอบได้ซึ่งถูกระบุว่า นั่งทำงานหน้าห้องระดับ ผอ.ส่วนคนหนึ่ง แต่เมื่อถามคนใกล้ชิดที่นั่งทำงานด้วยกันในสำนักงาน เพื่อเอาข้อมูลมาประกอบ ว่ารู้จักคนนี้หรือเปล่า ได้รับคำตอบว่าไม่เคยรู้จัก ทั้งๆ ที่ทำงานอยู่ด้วยกัน หัวจะชนกันอยู่แล้วแท้ๆ ซึ่งเป็นแบบนี้ คนสอบก็อึ้ง และพอจะสรุปได้แล้วว่า เป็นการให้ข้อมูลเท็จอยู่แล้ว” นายชัยวัฒน์กล่าว
ผู้อำนวยการสำนักอุทยานฯกล่าวอีกว่า สำหรับคนที่ยังก้ำกึ่งนั้น ยอมรับว่า เห็นใจ เพราะหลายๆ คน ผ่านการทำงานลาดตระเวนป่ามาแล้ว 1-4 ปี พอมาปีที่ 5 ไปทำงานอย่างอื่น เช่น เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือทำงานอื่นๆ ในอุทยาน แล้วไปสมัคร ซึ่งส่วนนี้หัวหน้าอุทยานบางที่ก็เซ็นรับรองให้ ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ต้องหาคนผิดมาลงโทษ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นธรรมของผู้ที่เข้าสอบที่มีคุณสมบัติครบทุกคน ต้องหาข้อสรุปเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด คาดว่าภายในเดือนหน้า
เมื่อถามว่า คิดอย่างไร ที่มีคนท้วงติงเข้ามาจำนวนมากว่า สอบพนักงานพิทักษ์ป่า แต่มีการทดสอบสมรรถภาพโดยการวิ่งด้วย นายชัยวัฒน์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนกำลังจะทำเรื่องเสนอไปยังคณะกรรมการกำหนดวิธีการสอบคัดเลือกพนักงานพิทักษ์ป่า การวิ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องจำเป็น เพราะคนที่เดินป่ามา 3-4 ปี หรือ 10 ปี ขึ้นไป ให้มาวิ่งแข่งกับเด็กรุ่นใหม่นั้นสู้ไม่ได้อยู่แล้ว แต่คนพวกนี้จะมีความเชี่ยวชาญเรื่องการเดินในพื้นที่ การใช้สายตา คือ จะมองในระยะไกลได้ทันทีว่า คนที่อยู่ข้างหน้านั้น แบบปืน หรืออย่างอื่น ซึ่งการวิ่งเร็วไม่ใช่ทักษะจำเป็นสำหรับพนักงานพิทักษ์ป่า แต่จะมีเรื่องทักษะอย่างอื่น เช่น การใช้สายตา การประเมินสถานการณ์ การทำงานเป็นทีม เป็นต้น
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า เรื่องนี้ตนสั่งการไปยังอธิบดีกรมอุทยานแล้วว่า ต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย รวมทั้งต้องคงความมีมาตรฐานของพนักงานพิทักษ์ป่าเอาไว้ให้ชัดเจน เพื่อให้การทำงานด้านลาดตระเวนมีคุณภาพมากที่สุด
เมื่อถามว่า เห็นว่า การทดสอบวิ่ง เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการสอบพนักงานพิทักษ์ป่าหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า ถ้าจำไม่ผิด สมัยที่ตนเป็นอธิบดีกรมอุทยานนั้น การสอบพนักงานพิทักษ์ป่า ไม่มีการทดสอบเรื่องวิ่ง อย่างไรก็ตาม เรื่องของสมรรถภาพร่างกาย เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าต้องมีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังดี รวมกับทักษะอย่างอื่นที่กำหนดเอาไว้ ยังมีความจำเป็นอยู่
