กรมการแพทย์ ปลื้ม รพ.นพรัตน์ฯ เริ่มโครงการรับยาใกล้บ้าน ขยายเพิ่ม 29 ร้านยา คนใช้บริการกว่า 1.7 คน พอใจมาก

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรงพยาบาล (รพ.) ของรัฐบาลหลายแห่ง มีผู้มารับบริการเพิ่มมากขึ้น ทำให้ใช้เวลาในการรอรับบริการนาน เพื่อลดปัญหานี้ แพทย์ผู้ทำการรักษาจำเป็นต้องมีการนัดผู้ป่วยที่มีอาการคงที่ เป็นระยะเวลานานขึ้น ทำให้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจเกี่ยวกับการใช้ยาและการเก็บรักษายามากพอ ซึ่งเสี่ยงต่อประสิทธิภาพการรักษายาเสื่อมสภาพ หรือมีปริมาณยาคงเหลือมาก ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณด้านยาของประเทศเกินความจำเป็น กรมการแพทย์ โดย รพ.นพรัตนราชธานี ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าวพร้อมทั้งเห็นว่าศักยภาพของ “ร้านยาคุณภาพ” ที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนมีเภสัชกรประจำตลอดเวลาทำการ สามารถช่วยตรวจสอบการบริหารยาของผู้ป่วยให้คำปรึกษาและแนะนำการใช้ยาที่ถูกต้องเหมาะสมตลอดจนคัดกรองส่งต่อไปยังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามความเหมาะสมได้เมื่อจำเป็น รพ.นพรัตนราชธานี จึงร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สภาเภสัชกรรม สมาคมเภสัชกรรมชุมชน(ประเทศไทย) และเครือข่ายร้านยาจัดทำโครงการ “รับยาใกล้บ้าน ร้านยาใกล้ใจ (Model 3)” รองรับนโยบาย 30 บาทพลัส เพื่อช่วยลดความแออัดใน รพ. ลดระยะเวลารอคอยนาน ลดค่าใช้จ่ายด้านยาของประเทศให้ผู้รับบริการได้ใช้ยาที่มีคุณภาพและยังส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้รับการประเมินติดตามผลการรักษาทำให้เกิดประสิทธิภาพความปลอดภัยมากขี้นขณะที่ นพ.เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการ รพ.นพรัตนราชธานี กล่าวว่า ทาง รพ. จัดให้มีคณะทำงานประชุมเพื่อวางแผนจัดทำโครงการและคัดเลือกบัญชียาร่วมกันตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. เป็นต้นมา และได้เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 6 พ.ศ.ที่ผ่านมา มีร้านยาที่เข้าร่วมโครงการจากเขตต่างๆ เช่น มีนบุรี บึงกุ่ม คลองสามวา บางกะปิ คันนายาว ลาดกระบัง บางเขน ลาดพร้าว และบางเสาธง รวม 21 ร้านยา การให้บริการเมื่อแพทย์มีการสั่งจ่ายยาและนัดผู้ป่วยเป็นระยะเวลานาน รพ. จะจ่ายยาให้แก่ผู้ป่วยเบื้องต้นจำนวน 2 เดือน และนัดผู้ป่วยรับยาต่อเนื่องที่ร้านยาใกล้บ้าน โดยมีเภสัชกรของ รพ. ทำการติดตามดูแลเรื่องการใช้ยาและติดตามผลการรักษา

“หากผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลง สามารถแจ้งอาการและเข้ารับการรักษาที่ รพ. ได้อย่างต่อเนื่อง จากการดำเนินงานที่ผ่านมาได้การตอบรับที่ดีจากผู้มารับบริการ โดยยอดสะสมถึงวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้สนใจรับยาใกล้บ้านแล้ว จำนวน 1,770 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี เนื่องจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทาง ลดขั้นตอนการเข้ารับบริการ และสามารถรับยาได้ในวันเวลาที่สะดวก จากการดำเนินการในช่วงแรกพบปัญหาขาดแคลนร้านยาในบางพื้นที่ จึงได้ขยายความร่วมมือเพิ่มเป็น 29 ร้านยา ในเดือนธ.ค. และมีแผนขยายร้านยาเพิ่มเติมต่อไป” นพ.เกรียงไกรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image