เหนือร้อนสุดขีด ‘ฮีตสโตรก’ คร่าอีก 1 ราย สธ.แนะป้องกันตนเองจากความร้อน

ภาคเหนือร้อนสุดขีด ‘ฮีตสโตรก’ คร่าอีก 1 ราย 5 ปี ไทยตายสะสม 131 สธ.แนะป้องกันตนเองจากความร้อน

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์ความร้อนในประเทศไทย ที่รายงานโดยกรมอุตุนิยมวิทยา ในวันที่ 30 เมษายน – วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 พบว่า ค่าดัชนีความร้อน หรือ Heat Index ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกได้ จำนวน 7 จังหวัด โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต จ.พังงา จ.กระบี่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.ตราด จ.ชลบุรี และ จ.จันทบุรี ที่มีค่าดัชนีความร้อนอยู่ในระดับอันตรายมาก (สีแดง) ซึ่งคาดว่าสภาพอากาศร้อนจัดมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทำให้เจ็บป่วยและอาจเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่มีภาวะอ้วน ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานควรเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ค่าดัชนีความร้อนจากกรมอุตุนิยมวิทยาทางเว็บไซต์ http://www.rnd.tmd.go.th/heatindexanalysis/ และ Facebook กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ อย่างต่อเนื่อง หากค่าดัชนีความร้อนอยู่ในระดับอันตราย (สีส้ม) (42.0 – 51.9 องศาเซลเซียส) ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ดูแลไม่ให้ทารกและเด็กเล็กอยู่ในรถที่จอดตากแดด ผู้มีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาให้พร้อม และดื่มน้ำสะอาดๆ ให้เพียงพอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพตนเอง

“ทั้งนี้ จากข้อมูลการเฝ้าระวังการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตด้วยโรคจากความร้อน (กลุ่มโรค Heat Stroke) ในช่วงปี 2562 – 2566 พบว่า มีผู้เสียชีวิตสะสม 131 คน เฉลี่ยเป็น 26.1 รายต่อปี และพบแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานและกลุ่มผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ในปี 2566 กรมอนามัยยังได้ติดตามเฝ้าระวังอาการและพฤติกรรมการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อน โดยพบว่าอาการเสี่ยงที่พบมากที่สุด คือ ปวดศีรษะ ท้องผูก เป็นตะคริวตามขา แขนหรือท้อง รวมถึง ยังพบพฤติกรรมเสี่ยงจากความร้อน เช่น ไม่ได้เช็กพยากรณ์อากาศ ก่อนออกจากบ้าน อยู่ในห้องที่ระบายอากาศได้ไม่ดีหรือไม่มีเครื่องปรับอากาศ หลังจากทำกิจกรรมกลางแจ้งไม่ได้อาบน้ำเพื่อลดอุณหภูมิในร่างกาย” พญ.อัจฉรา กล่าว

ทางด้าน นพ.สราวุฒิ บุญสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคเหนือ อุณหภูมิสูงสุด 44.1 องศาเซลเซียส ที่ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ รองลงมา 43.6 องศาเซลเซียส ที่ อ.เถิน จ.ลำปาง และ 43.5 องศาฯ ที่ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร อ.เมือง จ.ลำพูน อ.เมือง จ.ลำปาง ตามลำดับ ซึ่งขณะนี้พบผู้ป่วยโรงพยาบาล (รพ.) แพร่ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 สงสัย โรคฮีตสโตรก (Heat Stroke) จำนวน 5 ราย ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว จำนวน 1 ราย ขอให้ประชาชนสังเกตอาการเสี่ยงจากโรคลมร้อน หรือฮีตสโตรก ได้แก่ อุณหภูมิแกนกลางร่างกายสูงขึ้นมากกว่า 40 องศาฯ ผิวหนังแดงร้อน ชีพจรเต้นเร็วและแรง ปวดศีรษะ สับสน มึนงง คลื่นไส้หรืออาเจียน ความรู้สึกตัวของร่างกายเปลี่ยนไป หมดสติ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

Advertisement

“ทั้งนี้ประชาชนควรดูแลสุขภาพตนเองเพื่อลดความเสี่ยงด้านจากโรคฮีตสโตรก โดยดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ โดยไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ หรือก่อนออกจากบ้าน ควรดื่มน้ำ 1-2 แก้ว สวมเสื้อผ้าสีอ่อน ระบายอากาศได้ดี สวมหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด นำน้ำดื่มติดตัว และทาครีมกันแดดเป็นประจำ หรือหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนจัด หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง และแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ ประชาชนควรอยู่ในอาคาร หรือบ้านพัก ให้เปิดหน้าต่าง และพัดลม หากมีเครื่องปรับอากาศให้เปิดร่วมกับเปิดพัดลม ให้ส่าย เพื่อกระจายอากาศ หากพบผู้ป่วยโรคฮีตสโตรกให้รีบ
ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล หรือโทร 1669” นพ.สราวุฒิ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image