ที่กระทรวงพาณิชย์ น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวย การสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยประจำเดือนพฤษภาคม 2561 ว่า การส่งออกเดือนพฤษภาคม 2561 ขยายตัวสูง 11.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 คิดเป็นมูลค่า 22,257 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 21,053 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 11.7% ส่งผลให้การค้าเกินดุล 1,204 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รวม 5 เดือนแรกของปี การส่งออกมีมูลค่า 104,032 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 11.6% การนำเข้ามีมูลค่า 102,155 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 16.6% และการค้าเกินดุล 1,877 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
“ทางกระทรวงพาณิชย์ จะนัดหารือภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ส่งออก หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมไทย (ส.อ.ท.) มาร่วมหารือมาตรการรับมือสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีนในวันอังคารที่ 26 มิถุนายน ทั้งนี้ยืนยันว่าไทยยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว
การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เดือนพฤษภาคม 2561 ขยายตัวเล็กน้อยที่ 1.5% โดยสินค้าส่งออกที่ยังขยายตัวดี ได้แก่ ข้าว ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เครื่องดื่ม ทูน่ากระป๋อง อย่างไรก็ตามยังมีสินค้าเกษตรบางรายการหดตัว ได้แก่ ยางพารา หดตัว 17.5% ผักผลไม้แช่เย็น หดตัว 9.4% กุ้งสดแช่แข็งและแปรรูป น้ำตาลทราย ส่วนภาพรวม 5 เดือนแรกของปี กลุมสินค้าเกษตรฯ ขยายตัว 3.9% และในกลุ่มการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 12.6% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 โดยสินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป ตลาดส่งออกขยายไปตลาดสำคัญๆ เกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดตะวันออกกลาง
ภาพรวมการส่งออกทั้งปี คาดว่าจะขยายตัวได้ดีที่ประมาณ 8% และคาดว่าจะขยายตัวมากขึ้น ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก แม้ในระยะสั้นจะต้องเผชิญกับความผันผวนจากมาตรการการค้าระหว่างประเทศ ขณะที่สถานการณ์ค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลง เป็นผลดีกับผู้ส่งออกในการเร่งผลักดันส่งออกสินค้า ทำให้รายได้จากการส่งออกในรูปเงินบาทสูงขึ้น อย่างไรก็ตามผู้ส่งออกต้องเฝ้าระวังสถานการณ์และทำประกันความเสี่ยง เพื่อรองรับความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน
