คอลัมน์ แท็งก์ความคิด เลือกตั้ง-ความสุข โดยนฤตย์ เสกธีระ

หากเปรียบระยะเวลา 1 ปีคือจังหวะก้าว 1 ก้าว

วันที่ 9 มกราคม 2562 มติชนก็กำลังก้าวที่ 42 เพราะเข้าสู่ปีที่ 42

ปีนี้มีความพิเศษ เพราะรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยันว่า ปีนี้มีเลือกตั้ง

เมื่อมีการเลือกตั้งก็จะได้รัฐบาลจากการเลือกตั้ง

Advertisement

เมื่อมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง นานาชาติที่เคยวางมาตรการกีดกันเพราะไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารก็จะคลี่คลาย

การค้าการขาย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมไปถึงความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ จะเริ่มต้นอีกครั้ง

หลายเรื่องที่เคยถ่วงมิให้ประเทศขับเคลื่อนจะค่อยๆ จางหาย

Advertisement

หากการเลือกตั้งเกิดขึ้น และทุกฝ่ายยอมรับผลการเลือกตั้ง

ประเทศไทยย่อมมีโอกาสขับเคลื่อนไปข้างหน้า และพร้อมแข่งขันกับโลก

สำหรับหนังสือพิมพ์มติชนแล้ว สนับสนุนให้ประเทศไทยมีการเลือกตั้งมาตั้งแต่ปีแรกที่ก่อตั้ง

มติชนตั้งขึ้นเมื่อปี 2521 และได้ดำเนินกิจการมาจนถึงบัดนี้

ยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย

ทุกครั้งที่คนไทยไม่สามารถรักษาประชาธิปไตยเอาไว้ได้ ก็รู้สึกเศร้า

ทุกครั้งที่คนไทยมีสิทธิเสรีภาพคืนกลับมาก็รู้สึกดีใจ

ปีนี้จึงเป็นการก้าวย่างสู่ปีที่ 42 ได้ข่าวว่าจะมีเลือกตั้ง จึงมีความสุข

ดีใจที่ประชาชนคนไทยเริ่มได้รับสิทธิเสรีภาพคืนกลับมา

และเพื่อส่งเสริมการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในปีนี้

มติชนจึงนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งลงในฉบับพิเศษวันเกิดเข้าสู่ปีที่ 42

ขอโฆษณาเอาไว้ล่วงหน้าว่า ฉบับวันที่ 9 มกราคมปีนี้ ฉบับพิเศษของมติชนเป็นเรื่องราวของการเลือกตั้ง

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ได้ฉายภาพรวมของการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น

มุ่งมั่นตั้งใจจัดการเลือกตั้งอย่างเที่ยงธรรม

นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองระดับแกนนำได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับทิศทางของพรรคแต่ละพรรค

อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชูธงเลือกตั้งปรองดอง

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โชว์ทางแก้เศรษฐกิจและการศึกษา

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง เพื่อไทย กางแผนสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชูธง ภท.ตัวเต็งของประชาชน

เทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ฟื้นโมเดล “น้าชาติ” พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ มาต่อกรคู่แข่ง

กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ทุบเปรี้ยงลุยงาน 6 ด้านหวังโกยคะแนนเสียง

พร้อมกันนี้ยังมี ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ รท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ จากพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มาบอกเล่าเรื่องราวของพรรคตัวเอง

สุดท้ายยังมีมุมมองของนักวิชาการที่เกาะติดสถานการณ์การเลือกตั้งมาตลอด

ทั้ง สุรชาติ บำรุงสุข และ สติธร ธนานิธิโชติ

อ่านแล้วเห็นแนวคิด ได้รับไอเดียดีๆ มากหลาย

น่าสนใจที่นักการเมืองและพรรคการเมืองที่อาสาลงแข่งขันกันคราวนี้มีความหลายหลาก

สามารถมองเห็นหลากหลายมิติที่เกิดขึ้น

เมื่อมองดูพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ก็เห็นคนรุ่นเดิมที่เคยเป็นแชมป์และรองแชมป์

เมื่อมองดูพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา ได้เห็นพรรคเก่า แต่มีคนรุ่นใหม่ขึ้นมารับหน้าที่แทนคนรุ่นเดิม

เมื่อมองดูพรรคไทยรักษาชาติ พรรคอนาคตใหม่ เห็นพลังหนุ่มสาวที่พร้อมขึ้นสังเวียนการเมือง หวังจะเปลี่ยนแปลงประเทศ

เมื่อมองดูพรรคพลังประชารัฐ เห็นพรรคการเมืองใหม่ และแกนนำรุ่นใหม่ที่ประกาศความพร้อมบริหารประเทศต่อเนื่อง

ความหลากหลายที่ปรากฏ ทำให้คนไทยมีโอกาสได้เลือก

ความสุขอย่างหนึ่งของคนคือมีอิสระในการเลือก

เวลาออกไปตลาดจับจ่ายซื้อของ เราจะมีความสุขที่ได้เลือกสิ่งที่ชอบ

แม้บางทีของที่เลือกมาแล้วจะไม่ถูกใจนัก แต่การได้เลือกดีกว่าไม่ได้เลือก

การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ก็เช่นกัน

ในวันเวลาที่มีการเลือกตั้ง คนไทยย่อมมีความสุขที่ได้เข้าคูหาแล้วกาบัตรเลือกคนที่ใช่และพรรคที่ชอบ

กติกาใหม่บอกให้มีบัตรใบเดียว ไม่ใช่ 2 ใบเหมือนเมื่อก่อน

เมื่อก่อนมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ใบหนึ่งเลือกคน อีกใบหนึ่งเลือกพรรค

หลายคนจึงเลือก “คน” เพราะเคารพนับถือ แต่เลือก “พรรค” เพราะนโยบาย

แต่คราวนี้เหลือบัตรใบเดียว

ก่อนจะเลือกต้องกลั่นกรองก่อน จะใช้ความเกรงใจคนหรือความชอบในนโยบายพรรคก็ต้องตัดสินใจ

ตัดสินใจได้แล้วก็เลือก

เมื่อประชาชนเลือกได้ ประชาชนก็มีความสุข

เป็นความสุขที่ได้เป็นผู้เลือก

เมื่อ คสช.จัดให้มีการเลือกตั้ง เปิดโอกาสให้คนไทยได้เลือก

เท่ากับว่า คสช.เริ่มคืนความสุขให้ประชาชนแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image