นางวจีทิพย์ พงษ์เพ็ชร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้เกณฑ์การกู้ยืมระหว่างบุคคลกับบุคคลผ่านช่องทางออนไลน์ (Peer-to-Peer lending หรือ P2P lending) โดยมีแพลตฟอร์มเป็นตัวกลางในการจัดการระหว่างผู้ขอกู้และผู้ให้กู้ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา โดยยังไม่มีผู้ประกอบการสมัครเข้าทดสอบในศูนย์ทดสอบนวัตกรรมการเงิน(แซนด์บ็อกซ์) ของธปท. แต่ที่ผ่านมามีผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจ พีทูพี เลนดิ้ง แพลตฟอร์ม หลายรายมาหารือรายละเอียดกับ ธปท. เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะสมัครเข้าทดสอบ ซึ่งการที่จะขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจพีทูพี เลนดิ้ง แพลตฟอร์ม ต้องผ่านการทดสอบในแซนด์บ็อกซ์ก่อน จึงจะยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากกระทรวงการคลังได้
“พีทูพี เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับประชาชนและบุคคลผู้ประกอบอาชีพ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ด้านธนาคารพาณิชย์แม้จะไม่สามารถประกอบธุรกิจพีทูพี เลนดิ้ง แพลตฟอร์มได้ แต่ก็ต้องมีการปรับตัวเช่นเดียวกับการประกอบธุรกิจอื่นที่ต้องมีการแข่งขัน สามารถร่วมเป็นพันธมิตรหรือเป็นผู้ให้บริการเก็บรักษาเงิน (Escrow account) ได้ โดยประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจพีทูพี เลนดิ้ง แพลตฟอร์ม ซึ่งจะเผยแพร่บนเว็บไซต์ของ ธปท. ต่อไป” นางวจีทิพย์ กล่าว
นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ และแอพพลิเคชั่นทางด้านฟินเทค และลงทุนในธุรกิจสตา์ตอัพ กล่าวว่า เจ เวนเจอร์สได้พัฒนาแพลตฟอร์มป๋า เป็นการทำงานแบบพีทูพี เลนดิ้ง แพลตฟอร์มได้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 โดยมีแผนที่จะเข้าขอทดสอบในแซนด์บ็อกซ์ของธปท.เร็วๆนี้ ซึ่งคาดหวังว่าจะเป็นรายแรกที่ได้รับใบอนุญาต เพราะระบบของแพลตฟอร์มป๋ามีความพร้อมอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ขอกู้เพื่อการบริโภค วงเงิน 1.5-5 เท่าของรายได้ ส่วนการขอกู้เพื่อธุรกิจวงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท ส่วนผู้ให้กู้รายย่อยจำกัดวงเงินไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี ส่วนผู้ลงทุนสถาบันไม่จำกัดวงเงิน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี และค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้แพลตฟอร์ม (ถ้ามี)
