วันที่ 22 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,735.10 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,733.12 จุด เคลื่อนไหวผันผวนก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1,727.58 จุด ปรับลดลง 7.52 จุด หรือ 0.43% ดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,735.88 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,723.64 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 59,267.52 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 3,548.18 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 708.23 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 2,181.98 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 657.97 ล้านบาท
โดยนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ปรับฐานลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ติดลบเฉลี่ยประมาณ 0.7-0.8% ซึ่งมากกว่าตลาดหุ้นไทย ที่เผชิญแรงขายทำกำไรในช่วงที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะเดียวกันก็รอลุ้นผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะประชุมในวันที่ 30-31 กรกฎาคมนี้ และให้จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ ซึ่งคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิม แต่ให้จับตาการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจในยุโรปยังดูอ่อนแอ
นายวิจิตร กล่าวว่า สำหรับปัจจัยในประเทศไทย ต้องรอดูในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ ที่จะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และรอลุ้นการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนด้วย โดยวันนี้ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวฟื้นขึ้นมาได้ ส่วนสาเหตุคงมาจากประเด็นความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ทำให้บรรยากาศในส่วนของน้ำมันยังดีอยู่ โดยแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 กรกฎาคม) คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวออกด้านข้างถึงแกว่งตัวลง จึงให้แนวรับไว้ที่ระดับ 1,720 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,740-1,750 จุด
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
