หุ้นไทยร่วงไม่เลิก ปิดลบ 4.32 จุด หลังการเมืองกลับมากดดันใหม่

วันที่ 8 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 1,669.44 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,670.31 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,665.12 จุด ปรับลดลง 4.32 จุด หรือ 0.26% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,673.84 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,660.36 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 62,650.12 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 487.62 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,014.88 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 935.38 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 567.12 ล้านบาท

โดยนายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีของหุ้นหายกลุ่ม อาทิ กลุ่มขนส่ง ค้าปลีก นำโดยซีพีออล โฮมโปร แต่เนื่องจากยังมีแรงกดดันในส่วนของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง ทำให้มีแรงขายสุทธิจากนักลงทุนค่อนข้างสูงในหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มการเงิน เนื่องจากมีความกังวลเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มการเงินการธนาคาร ซึ่งการที่กนง.มีมติลดดอกเบี้ย ก็สร้างความแปลกใจให้กับตลาดค่อนข้างมาก แต่ความจริงแล้วก็ไม่ได้ถือว่าสร้างความตกใจมากนัก เนื่องจากเห็นสัญญาณของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับลดลง ทำให้มีความเชื่อว่าจะต้องมีการลดดอกเบี้ยลงอยู้แล้ว เพียงแต่มีความกังวลในส่วนของการที่จะมีการลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องมากกว่า

นายประกิต กล่าวว่า รวมถึงมีปัจจัยในประเทศที่สร้างความกังวลให้ตลาดเพิ่มขึ้น ในส่วนของการเมือง ที่เกิดขึ้นจากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยภายหลังพบว่า นายกรัฐมนตรี และครม. ได้กล่าวคำถวายสัตย์ไม่ครบ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี ถูกวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก จากทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน และนักวิชาการด้านต่างๆ โดยอาจจะเข้าข่ายเป็นกานกระทำการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีเนื้อหาว่าถ้อยคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ ของพล.อ.ประยุทธ์ และครม. ตามมาตรา 161 โดยตัดถ้อยคำว่า “ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” และได้เพิ่มเติมคำว่า “ตลอดไป” โดยเหตุการณ์นี้สร้างความกังวลให้นักลงทุนสูงมาก เพราะเริ่มมีความกลัวว่าการเมืองไทยจะกลับมาไม่นิ่งอีกแล้ว

“สำหรับวันพรุ่งนี้ (9 สิงหาคม) คาดว่าตลาดจะมีภาพที่ดีขึ้น เพราะความกังวลในเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน (เทรดวอร์) เริ่มเบาลง เพราะยังไม่มีกรณีใหม่เกิดขึ่น รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ เริ่มกลับมามีอัตราที่ดีมากขึ้น โดยให้กรองเคลื่อนไหวไว้ที่ระดับ 1,660-1,680 จุด โดยแนะนำกลยุทธ์ในการลงทุนคือ หากมีหุ้นถือครองอยู่ให้ถือครองต่อไป สำหรับการเข้าซื้อเพิ่มเติม น่าจะยังไม่ใช่จังหวะที่ดีมากนัก เพราะขณะนี้ตลาดอยู่ในอาการผันผวนสูง โดยแนะนำหุ้นเด่นเป็นกลุ่มที่มีผลประกอบการไตรมาส 2 ดีและคาดว่าจะดีจนถึงปลายปี อาทิ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด ( มหาชน) หรือ BGRIM, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และหุ้นกลุ่มสื่อสารอย่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด ( มหาชน) หรือ TRUE”นายประกิตกล่าว

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image