‘หาดใหญ่โพล’ เผยดัชนีความเชื่อมั่นประชาชน 14 จังหวัดใต้ ‘ลดวูบ’ หลังสินค้าจีนตีตลาด

เมื่อวันที่ 2 มกราคม ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชน 14 จังหวัดภาคใต้ 420 ตัวอย่าง ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่าโดยรวมปรับตัวลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายน และแตกต่างจากปี 59-62 ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวม เดือนธันวาคมปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

ผศ.ดร.วิวัฒน์ เปิดเผยว่า ปัจจัยลบมาจากสาเหตุที่สำคัญหลายปัจจัย อาทิ เป็นช่วงเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลง หลายประเทศในภูมิภาคล้วนแต่ได้รับผลกระทบเช่นกัน ประกอบกับราคาพืชผลทางเกษตรที่ตกต่ำ จากความต้องการของผู้ซื้อน้อยกว่าปริมาณการผลผลิตทางการเกษตรที่ออกมา และเกษตรกรส่วนหนึ่งไม่มีความรู้ความเข้าใจในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

“การเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม การลงทุน และการส่งออกของธุรกิจเอสเอ็มอีภาคใต้ การนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาถูกกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ผลิตในภาคใต้ของประเทศไทยไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ จึงจำเป็นต้องปิดตัวลงจำนวนไม่น้อย”

ผศ.ดร.วิวัฒน์เปิดเผยว่าผู้ประกอบอาชีพประมงส่วนหนึ่งประสบปัญหาการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง การแข่งขันของผู้ประกอบการร้านค้าปลีกทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค โดยเฉพาะที่อยู่นอกระบบภาษี เช่น ร้านขายอาหาร ร้านขายน้ำ และร้านค้าแผงลอย ล้วนได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ

Advertisement

ผศ.ดร.วิวัฒน์เปิดเผยว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคมีน้อยกว่าปริมาณร้านค้า ทำให้ร้านค้าส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแข่งขันได้ต้องปิดตัวลง แม้ว่าภาครัฐได้ออกมาตรการเพื่อรับมือกับเศรษฐกิจขาลง และได้ช่วยเหลือประชาชนในหลายภาคส่วน เพื่อให้สามารถมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่มาตรการยังไม่สามารถช่วยผลักดันเศรษฐกิจโดยภาพรวมของภาคใต้ให้ดีขึ้นได้อย่างชัดเจน”

“ประชาชน 14 จังหวัดภาคใต้ส่วนหนึ่งมองว่ามาตรการของภาครัฐเป็นเพียงช่วยเหลือเบื้องต้น ให้เกิดความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแค่ชั่วคราว แต่ไม่มีความยั่งยืน”

ผศ.ดร.วิวัฒน์เปิดเผยว่า ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การแก้ปัญหายาเสพติด และการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ลดลง จากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในหลายพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเหตุเจ้าหน้าที่ยิงปะทะประชาชนที่เข้าใจผิดว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 3 ศพ บนภูเขาอาปี เทือกเขาตะเว ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ภาครัฐได้เยียวยาให้กับผู้ได้รับความเสียหายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มมากขึ้น

Advertisement

“ปัจจัยบวกส่วนหนึ่งมาจากนักท่องเที่ยวชาวไทย เดินทางพักผ่อนท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสถึงปีใหม่ แหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลอันดามันที่มีความสวยงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดยาว มีการจับจ่ายใช้สอยเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคและบริโภคเพื่อเลี้ยงฉลองกับญาติและเพื่อน การซื้อของขวัญเพื่อมอบให้กับผู้ที่รักและเคารพในช่วงเทศกาลปีใหม่”

ผศ.ดร.วิวัฒน์เปิดเผยว่าคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.60 และรายได้จากการทำงานจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.40 ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.50 และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.60

ผศ.ดร.วิวัฒน์เปิดเผยว่าปัจจัยที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ามีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันมากที่สุด คือ ค่าครองชีพร้อยละ 28.40 รองลงมา คือ ราคาสินค้าสูง ร้อยละ 26.20 และราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำร้อยละ 19.50

“ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชน 14 จังหวัดภาคใต้ส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลควรให้ความช่วยเหลือเป็นอันดับแรก คือค่าครองชีพและราคาสินค้าสูง”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image