อธิบดีราชทัณฑ์ตั้งกก.สอบฯนักโทษหนี ชี้ผู้พาหนี-ให้ที่หลบซ่อมมีความผิดตามกม.

 

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยความคืบหน้าหลังจากน.ช.กฤษดา ม่วงแพร ผู้ต้องขังคดีลักทรัพย์ กำหนดโทษ 3 ปี และจะพ้นโทษในวันที่ 28 ก.พ.นี้ หลบหนีจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า กรมราชทัณฑ์ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยติดตามจับกุมและนำกำลังปิดล้อมพื้นที่ต้องสงสัยแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าสาเหตุเกิดจากความหละหลวมของเจ้าหน้าที่หรือไม่ แต่ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่คงไม่คิดว่าจะเกิดเหตุขึ้น เนื่องจากผู้ต้องขังใกล้จะพ้นโทษในอีก 2 สัปดาห์นอกจากนี้ผู้ต้องขังก็ได้ฝึกอาชีพที่คาร์แคร์มานานกว่า 8 เดือน ส่วนสาเหตุของการหลบหนีนั้น ยังไม่ทราบเหตุจูงใจ แต่หากถูกจับได้ก็จะมีการเพิ่มโทษตามดุลยพินิจของศาล
“เรือนจำฯได้ทำความเข้าใจกับผู้ต้องขังที่ออกไปฝึกอาชีพนอกเรือนจำมาโดยตลอดว่ายังไม่ใช่ผู้พ้นโทษ แต่เปิดโอกาสให้ออกมาฝึกอาชีพ อาจได้เห็นเดือนเห็นตะวันภายนอก แต่ก็ต้องมีความรับผิดชอบ และถ้าหากหนีไปจะไม่คุ้ม แต่กรณีนี้หนีจากภายนอกรั้วเรือนจำ ซึ่งผู้ต้องขังที่หลบหนีระหว่างคุมขังนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยศาลอาจจะพิพากษาลงโทษจำคุกเพิ่มไม่เกิน 3 ปี ส่วนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนีหรือให้การสนับสนุนในการหลบหนี หรือให้ที่พักอาศัยจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน จึงขอความร่วมมือจากญาติและบุคคลใกล้ชิดของผู้ต้องขังเกลี้ยกล่อมขอให้ผู้ต้องขังเข้ามอบตัว” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้ผู้ต้องขังหลบหนีเนื่องจากอาจทราบว่าจะถูกตำรวจเข้าอายัดตัวในคดีอื่นต่อนั้น คงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ทั้งนี้จากสถิติผู้ต้องขังหลบหนีตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 จนถึงปัจจุบันมีผู้ต้องขังหลบหนีทั้งสิ้น 8 ราย ซึ่งสามารถจับกุมกลับมาได้ทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังออกรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอก และผู้ต้องขังที่ฝึกวิชาชีพภายนอกเรือนจำ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้านการควบคุมผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ว่าจะสามารถจับกุมผู้ต้องขังที่หลบหนีได้

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image