ไขข้อข้องใจ แบบไหนคืออาการ หวัด-ภูมิแพ้-โควิด
ไวรัสโควิด-19 – การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สร้างความตระหนกให้กับคนทั่วโลกไม่น้อย เนื่องด้วยเป็นไวรัสชนิดใหม่ ที่ส่งผลกระทบร้ายต่อร่างกาย โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ และปอด
ที่สำคัญอาการของโรคในเบื้องต้นอาจมีความคล้ายกับโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือภูมิแพ้
แต่จะแยกความแตกต่างอาการของโรคอย่างไร
พญ.ลินน่า งามตระกูลพานิช ผู้อำนวยการศูนย์โรคภูมิแพ้ และหอบหืด รพ.กรุงเทพ กล่าวว่า โรคภูมิแพ้ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19 เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจจึงมีอาการแสดงคล้ายกันได้
โดย “โรคภูมิแพ้” เกิดจากการตอบสนองของร่างกายที่ไวต่อสารก่อภูมิแพ้มากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการผิดปกติกับอวัยวะที่สัมผัสสารก่อภูมิแพ้นั้นๆ
อาการของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จะเกิดตามอวัยวะที่มีการอักเสบ จากการกระตุ้นของสารก่อภูมิแพ้ ได้แก่ ผื่นคัน คันจมูก จาม มีน้ำมูก คัดจมูก ไปจนถึงไอ หอบ แน่นหน้าอก หายใจไม่คล่อง เป็นต้น
ส่วนคำถามที่ว่า คนเป็นภูมิแพ้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดมากกว่าปกติหรือไม่
พญ.ลินน่าตอบว่า ไม่ได้มีความเสี่ยงมากกว่าปกติ แต่หากดูแลป้องกันตัวเองไม่ดีพอก็มีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ฉะนั้น จึงควรดูแลตัวเองหลีกเลี่ยงจากสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแพ้ รวมไปถึงการใช้ยาตามแพทย์สั่ง ล้างจมูก พ่นยาจมูก เพื่อป้องกันไม่ให้อาการกำเริบ
ขณะที่ “ไข้หวัด” เป็นโรคติดเชื้อที่พบบ่อย เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซึ่งมีหลายสายพันธุ์ มักพบในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ความรุนแรงของโรคไม่มากและสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน
อาการของโรคหวัด ได้แก่ คัดจมูก น้ำมูกไหลลักษณะใส ไอมีเสมหะ จาม เจ็บคอ เสียงแหบ อาจมีอาการไข้ต่ำๆ ปวดศีรษะเล็กน้อย ในผู้ใหญ่อาการจะน้อยมาก อาจมีแค่คัดจมูกและน้ำมูกไหล (ยกเว้นผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคทางการหายใจ) มักเป็นไม่เกิน 2-5 วัน แต่อาจมีน้ำมูกไหลนาน 10-14 วัน
ส่วน “ไข้หวัดใหญ่” เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา ซึ่งแบ่งเป็นตามฤดูกาล อาการสำคัญของไข้หวัดใหญ่คือ มีไข้สูงติดกันหลายวัน มีอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอแห้งๆ จาม เจ็บคอ บางครั้งมีน้ำมูกซึ่งอาการจะคล้ายกับการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ค่อนข้างมาก แต่ที่แตกต่างคือมักจะไม่มีอาการทางเดินหายใจส่วนล่าง คือหายใจลำบาก แน่นหน้าอก ร่วมด้วย
สำหรับ อาการของ “ผู้ป่วยโรคโควิด-19” จะเริ่มจากอาการไข้ รู้สึกเมื่อยล้า มีอาการไอแห้งๆ หายใจได้ลำบาก บางครั้งอาจมีอาการเจ็บคอ ทั้งนี้ โรคนี้สามารถหายได้เอง โดยรูปแบบการรักษาเป็นไปตามอาการที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล
“เนื่องจากไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือภูมิแพ้ เป็นโรคที่เคยเกิดขึ้นแล้วและร่างกายของเรามีภูมิคุ้มกันในระดับหนึ่ง แต่โควิด-19 เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่ร่างกายของมนุษย์ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ทำให้เวลาที่เชื้อเข้าไปในร่างกาย ในระบบทางเดินหายใจ เชื้อโรคจะลามเข้าไปสู่ปอด ส่งผลให้เกิดอาการปอดบวม ปอดอักเสบ ได้มากกว่าไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และภูมิแพ้ โดยเฉพาะกับกลุ่มเสี่ยงอย่างผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว” พญ.ลินน่ากล่าว และย้ำว่า
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 โรค สามารถป้องกันด้วยการล้างมือบ่อยๆ ไม่เอามือไปสัมผัสหน้าตา เลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ไม่ไปในพื้นที่ที่มีคนแออัดในช่วงที่มีการระบาด เว้นระยะห่างในผู้สูงอายุ และเด็กควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปีละ 1 ครั้ง
ตระหนักรู้ แต่ไม่ตื่นตระหนก
