จากกรณี นายพิส จันดาประดิษฐ์ อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 42 หมู่ 8 บ้านนาซอ ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ก่อเหตุฆ่านางบุญเลิศ จันดาประดิษฐ์ อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ต้องหา ใช้อิฐบล็อกทุบหัวจนกะโหลกเปิด ก่อนจะอุ้มศพในสภาพเปลือยกาย โยนลงบ่อเกรอะหลังบ้านที่กำลังสร้างใหม่แล้วโบกปูนทับ ก่อนลูกสาวคนโตจะเอะใจเห็นรอยโบกปิดสนิทผิดสังเกต จึงใช้ค้อนทุบดูพบร่างแม่นอนอยู่ในนั้น แจ้งตำรวจตรวจสอบ กระทั่งนำมาสู่การจับกุม ฆาตกรสารภาพเก็บกดนานกว่า 20 ปี เหตุเมียแอบคบชู้ไม่ต่ำกว่า 7 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและอำพรางศพ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 พ.ต.ท.ชัย ร่มธรรมไทร รอง ผกก.สอบสวน สภ.โพนสวรรค์ เตรียมนำตัวนายพิสผู้ต้องหาฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนม พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากอัตราโทษสูงขั้นประหารชีวิต ต่อมาหลังแพทย์โรงพยาบาลโพนสวรรค์ ชันสูตรพลิกศพนางบุญเลิศฯ วินิจฉัยว่าเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายบริเวณศีรษะ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก หากญาติติดใจในการตายก็พร้อมจะส่งศพไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น แต่ญาติไม่ติดใจจึงขอนำศพออกมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านหลังเกิดเหตุ บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด
น.ส.นิตยา จันดาประดิษฐ์ อายุ 29 ปี ลูกสาวคนโต ได้เปิดเผยว่าจะฌาปนกิจศพแม่ที่ป่าช้าบ้านนาซอ ในวันพรุ่งนี้ (9 พค.)
แหล่งข่าวในหมู่บ้านเปิดเผยว่านายพิส ผู้ต้องหาเป็นคนขยันทำมาหากิน รักครอบครัวที่สุด ไม่ยอมให้เมียทำงานหนัก มีหน้าที่ดูแลลูกทั้งสามคนเท่านั้น และตั้งมั่นจะให้ลูกชายคนกลางเรียนในระดับสูงจนจบวิศวกร เป็นสิ่งเชิดตาชูตาในตระกูล แม้ที่ผ่านมานายพิส จะรู้อยู่เต็มอกว่าเมียสวมเขา ก็แกล้งเป็นรู้บ้างไม่รู้บ้าง เหตุที่ไม่ยอมหย่าขาดเพราะรักเมีย ให้อภัยทุกครั้งที่เมียไปคบคนใหม่ อีกทั้งยังมาเยาะเย้ยให้เจ็บช้ำน้ำใจประจำ ฟางเส้นสุดท้ายขาดเพราะจะเอาชายชู้มานอนในบ้านหลังใหม่ นายพิส จึงกลายเป็นฆาตกรฆ่าเมีย คนในหมู่บ้านล้วนเห็นใจในชะตากรรมของผู้ต้องหา
