เกณฑ์จ้าง‘ต่างด้าว’ โดย สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา

มีเรื่องสำคัญที่บรรดานายจ้างแรงงานต่างด้าว จำเป็นต้องรู้เอาไว้

กรมการจัดหางานได้ออกประกาศกรมการจัดหางาน เรื่อง เงื่อนไขการรับคนต่างด้าวเข้าทำงานกรรมกรและงานขาย
ของหน้าร้านกับนายจ้าง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา

เนื่องจากตามข้อ 5 วรรคสอง ของประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ลงวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2563 ได้กำหนดให้อธิบดีกรมการจัดหางานออกประกาศกำหนดเงื่อนไขการรับคนต่างด้าวเข้าทำงานกรรมกรและงานขายของหน้าร้าน เป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร

มีเงื่อนไขให้คนต่างด้าวทำงานนั้นได้ก็เฉพาะงานที่มีนายจ้าง และได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองภายใต้บันทึกความตกลง หรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ (MOU) ตามบัญชีท้ายประกาศกระทรวงแรงงานกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ

Advertisement

กรมการจัดหางานได้รับฟังความเห็นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ก่อนออกประกาศ สำหรับงานขายของหน้าร้านกำหนดคุณสมบัตินายจ้างที่จะรับคนต่างด้าวเข้าทำงานจะต้องเป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนพาณิชย์ ตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์ หรือในกรณีร้านค้าไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ ให้นายจ้างแสดงใบอนุญาต หนังสือรับรอง หรือเอกสารที่ทางราชการออกให้ เพื่อประกอบพาณิชยกิจ และนายจ้างต้องรับคนต่างด้าวทำงานขายของหน้าร้านตามหลักสัดส่วน สูงสุดไม่เกิน 20 คน

พิจารณาจากหลักเกณฑ์การชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลในรอบปีภาษีที่ผ่านมา กำหนดสัดส่วนการรับคนต่างด้าวได้ตั้งแต่ 1-10 คน ตามมูลค่าภาษีเงินได้ที่ได้ชำระแล้ว กรณีรอบปีภาษีที่ผ่านมายื่นแบบแสดงภาษีเงินได้และได้รับยกเว้นการเรียกเก็บภาษีเงินได้ สามารถรับคนต่างด้าวทำงานขายของหน้าร้านได้ 1 คน

กรณีชำระภาษีเงินได้ตั้งแต่ 1-50,000 บาท สามารถรับคนต่างด้าวทำงานขายของหน้าร้านได้ 3 คน และกรณีชำระภาษีเงินได้เกินกว่า 50,000 บาท ทุกๆ 50,000 บาท จ้างคนต่างด้าวทำงานขายของหน้าร้านเพิ่มได้ 1 คน ทั้งนี้ ไม่เกิน 10 คน

Advertisement

และหากต้องการรับคนต่างด้าวเข้าทำงานเกินกว่า 10 คน ให้นำหลักเกณฑ์การจ้างงานมาใช้พิจารณา คือ นายจ้างที่มีลูกจ้างคนไทย 30 คน สามารถรับคนต่างด้าวเข้าทำงานเพิ่ม ได้ 1 คน และถ้าจ้างคนไทยเพิ่มทุกๆ 10 คน ให้รับคนต่างด้าวได้อีก 1 คน รวมทั้ง 2 หลักเกณฑ์แล้วนายจ้าง จะสามารถรับคนต่างด้าวเข้าทำงานขายของหน้าร้านได้ไม่เกิน 20 คน

ส่วนการรับคนต่างด้าวเข้าทำงานกรรมกรนั้น ไม่ได้กำหนดเรื่องสัดส่วนจำนวนคนต่างด้าวที่จะรับคนต่างด้าวเข้าทำงานไว้ แต่คนต่างด้าวจะมีสิทธิทำงานกรรมกรและงานขายของหน้าร้านได้ ก็ต่อเมื่อในใบอนุญาตทำงานระบุสิทธิว่า สามารถทำงานกรรมกรหรืองานขายของหน้าร้านได้เท่านั้น โดยในงานขายของหน้าร้านต้องระบุนายจ้างด้วย

หากไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว คนต่างด้าวและนายจ้างจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

คนต่างด้าวจะมีความผิดตามมาตรา 8 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท และเมื่อได้ชำระค่าปรับแล้ว ให้ส่งคนต่างด้าวผู้นั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักรส่วนนายจ้างจะมีความผิดตามมาตรา 9 สำหรับการกระทำความผิดครั้งแรก ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน

และหากเป็นการกระทำความผิดครั้งที่สองต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 ถึง 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามผู้นั้นจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลาสามปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษ

สำหรับกรณีใบอนุญาตทำงาน ยังไม่ได้ระบุสิทธิว่าสามารถทำงานกรรมกร หรืองานขายของหน้าร้านได้ นายจ้าง/สถาน ประกอบการสามารถยื่นคำขอเปลี่ยนหรือเพิ่มประเภทงานกรรมกร หรืองานขายของหน้าร้านในใบอนุญาตทำงาน ได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 ที่เป็นที่ตั้งสถานประกอบการ หรือโทรสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

นายจ้างและลูกจ้างที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว รีบทำให้ถูกต้องซะ จะได้ไม่ต้องวุ่นวายในภายหน้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image